ปฏิบัติธรรมบนพระมหาเจดีย์พุทธคยาชั้นสอง ครั้งที่ ๑๖
๑๑-๒๒ พ.ย. ๖๐
11 - 22 พ.ย. 60
 |
เมืองสาวัตถี
มหานครแห่งคนดี
เมือง...เศรษฐีลือนาม เมือง...หญิงงามลือชื่อ
เมือง...มหาวิหารล่ำลือ เมือง...เลื่องลือโพธิ์อานนท์
เมือง...เดียรถีย์เสียท่า เมือง...๒๕ จำกาลฝน
เมือง...ปราบโหราจารย์พาลชน เมือง...แสดงมงคล ๓๘ ประการ
เมือง...กฐินถูกยอยก เมือง...แสดงยมกปาฏิหาริย์
เมือง...จอมโจรรองคุลีมาล เมือง...ตำนานพระสิวลี
เมือง...ธรณีสูบคนบาป เมือง...กำราบคนหมองศรี
เมือง...มากหมู่พระกุฎี เมือง...สร้างบารมี ศีล ทาน ภาวนาฯ |
 |
ประวัติศาสตร์เมืองสาวัตถี
- เมืองสาวัตถีในสมัยพุทธกาล เป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศล เจ้าผู้ครองนคร คือพระเจ้าปเสนทิโกศล พระพุทธองค์ได้เสด็จมานั่งประทับที่นี่ทั้งหมด ๒๕ พรรษา อยู่ที่เชตวันมหาวิหาร ๑๘ พรรษา และอยู่ที่บุพพาราม ๖ พรรษา มีประชากร ๗ โกฏิ ปัจจุบันเหลือเนื้อที่ประมาณ ๘๐ ไร่ ๓๒ เอเคอร์
- พระพุทธเจ้าเสด็จไปสาวัตถีครั้งแรกปลายพรรษาที่ ๒ ต้นพรรษาที่ ๓
- สิ้นสมัยพระเจ้าปเสนทิโกศล อำนาจแคว้นโกศลก็ลดลง
- สมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช วัดเชตะวันก็ยังคงเจริญรุ่งเรืองอยู่ พระองค์ได้เสด็จมาในปี พ.ศ.๒๓๖ พ.ศ.๒๔๐ ปักเสาอโศกไว้ที่นี้ มีหลักฐาน ๖ ต้น คือ ณ สถานที่แสดงยมกปกฏิหาริย์, เชตะวันมหาวิหาร บุพพาราม, บ้านของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี, บ้านขององคุลีมาล, ที่พระสารีบุตรได้แสดงธรรม
- พ.ศ.๙๔๔-๙๕๓ หลวงจีนฟาเหียน ได้มาจาริกธรรม บันทึกว่าตัวเมืองถูกทิ้งร้างแต่พระเชตะวันยังเป็นสำนักสำคัญที่มีถึง ๗ขั้น
|
 |
- พ.ศ.๑๑๗๓-๑๑๘๖ หลวงจีนถังซัมจั๋งมาบันทึกว่าตัวเมืองร้างมานาน พระเชตะวันก็เริ่มมีพระสงฆ์น้อยลง ผู้คนก็น้อยลง
- พ.ศ.๑๓๙๐ พระเจ้ามหิปาละ ได้ทำการบูรณะวัดเชตะวันขึ้นมาใหม่
- พ.ศ.๑๕๖๐ กองทพอิสลาม นำโดย มะหะหมัด ดัชนี ได้ยทัพมาทำลายล้างพระเชตะวัน
- พ.ศ.๑๖๕๐ พระนางกุมาราชเทวี พระมเหสีของพรเจ้าโควินทจันทร์แห่งมหานครกาโนช ได้ทำการบูรณะใหม่
- พ.ศ.๑๖๗๑ อิสลามในราชวงศ์ทาสปกครองอินเดีย ได้ยกทัพมาตีทำลายทุกสิ่งทุกอย่างฝังลงไว้ใต้พื้นปฐพีจนไม่เหลือซากใด ๆ ร้างหายไปเกือบ ๗๐๐ ปี
- พ.ศ.๒๔๐๕ อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม ได้มาสำรวจเมืองสาวัตถีขุดค้นหลักฐานตามบันทึกของท่านฟาเหียน และพระถังซัมจั๋ง
- พ.ศ.๒๔๕๒ เซอร์จอร์น มาร์แชล ได้ขุดค้นพบหลักฐานทั้งหมดจนปรากฏ ณ ปัจจุบันนี้
|
 |
สถานที่สำคัญ
๑) วัดเชตะวันมหาวิหาร คนท้องถิ่นเรียกว่า “สาเหตุ” ๘) วัดบุพพาราม
๒) พระมูลคันธกุฎี ๙) มิลลิกาอาศรม
๓) กุฎิเหล่าพระอรหันต์ ๑๐) บ้านท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
๔) สังฆสภา ๑๑) สถานที่แสดงยมกปาฏิหาริย์
๕) ต้นโพธิ์อานนท์ ๑๒) ที่ธรณีสูบคนบาป
๖) ศาลาโรงธรรม ๑๓) บ้านท่านปุโรหิตาจารย์บิดา
องคุลีมาล
๗) ตัวเมืองสาวัตถีเป็นเขตพระราชฐานของพระเจ้าปเสนทิโกศล คนท้องถิ่นเรียกว่า “มาเหต”
|
 |
ที่แสดงยมกปาฏิหาริย์
เป็นจุดที่พระพุทธองค์แสดงยมกปกฏิหาริย์ปราบเดียรถีย์ หรืออีกนัยหนึ่งคือลัทธิเชนนั่นเอง ตั้งอยู่ริมถนนเข้าเมืองสาวัตถี ห่างจากพระเชตะวันประมาณ ๑ กิโลเมตร เป็นสภาพเนินดินที่ใหญ่โต เดิมเป็นสถูปที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชได้รับการขุดค้นไปแล้วบางส่วน
|
 |
พระเชตะวัน, อานนทโพธิ์
เป็นอารามที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณแถบนี้ สร้างในบริเวณที่เดิมของเจ้าเชต ซึ่งเป็นเชื้อสายของกษัตริย์องค์หนึ่งในสมัยพุทธกาล อนาถปิณฑิกะมีนามเดิมว่า สุทัตตะ เป็นพ่อค้าชาวเมืองสาวัตถี ได้ไปค้าขายที่เมืองราชคฤห์ และได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดาจนบรรลุโสดาบัน จึงอาราธนาพระองค์มาโปรดชาวเมืองสาวัตถี เมื่อพระองค์เสด็จมาแล้ว จึงได้ซื้อที่ของเจ้าเชต ในเบื้องต้นถูกโก่งราคาอย่างหนักด้วยการให้เศรษฐีปูทองคำเต็มบริเวณเศรษฐ๊ทำตามจนเจ้าเชตทึ่งเห็นใจจึงขายให้พร้อมกับขอร้องให้ใช้นามตนเองตั้ง จนกลายเป็นเชตวนาราม พระองค์ประทับอยู่ที่นี่นานที่สุดถึง ๑๙ พรรษา ปัจจุบันอยู่ในเขตเมืองสราวัสดี จังหวัดสราวัสดี รัฐอุตตรประเทศ ปัจจุบันนิยมเรียกว่าศราวัสดี อันเป็นนามตามภาสันสกฤต ส่วนคำว่า สาวัตถี ตามนามบาลีมีคนรู้จักน้อยมาก ส่วนภายในพระเชตะวัน มีกุฎิปลูกสร้างอยู่มากมาย ทั้งพระมูลคันธกุฎีของพระพุทธเจ้า และอานนทโพธิ์ซึ่งพระมหาโมคคัลลานะนำมาจากพุทธคยามาปลูกไว้ที่นี่ จึงนับว่าเป็นต้นไม้ที่เก่าแก่มากที่สุดต้นหนึ่ง
|
 |
 |
บ้านอนาถปิณฑิกเศรษฐี
เป็นซากบ้านโบราณภายในเขตพระราชฐานเมืองสาวัตถี คำว่า อนาถปิณฑิกะ แปลว่า ผู้มีก้อนข้าวสำหรับผู้ไม่มีที่พึ่ง เป็นเศรษฐีที่มั่งคั่งที่สุดและยากจนที่สุดในคราวเดียวกัน เป็นมหาอุบาสกที่ค้ำชูพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า เป็นผู้สร้างเชตะวันมหาวารถวายพระพุทธองค์ ปัจจุบันเหลือเพียรซากโบราณสถานให้เราได้เห็นกฎแห่งอนิจจัง
|
 |
บ้านท่านปุโรหิตาจารย์บิดาองคุลีมาล
เชื่อกันว่าเป็นซากคฤหาสน์ของพราหมณ์ปุโรหิต ผู้เป็นบิดาของจอมโจรองคุลีมาลหรืออหิงสกะ หลังจาก ๗ ขวบ บิดาจึงให้ไปศึกษาศิลปวิทยาที่เมืองตักกศิลา
|
 |
วัดบุพพาราม
สร้างโดยวิสาขามหาอุบาสิกา ธิดาของธนัญชัยเศรษฐี เป็นหญิงที่สมบูรณ์ด้วยเบญจกัลยาณี อายุได้ ๗ ขวบ บรรลุเป็นพระโสดาบัน พระพุทธองค์มาประทับที่วัดนี้ถึง ๖ พรรษา ตรัสพระธรรมเทศนาหลายพระสูตร ปัจจุบันนี้ อารามถูกแม่น้ำอจิรวดีเซาะจนพังเกือบไม่เหลืออะไรเป็นหลักฐาน
|
 |
พระสูตรต่างๆ
พระพุทธองค์ตรัสพระสูตรที่เมืองสาวัตถีทั้งสิ้น ๘๗๑ พระสูตร คือ เชตะวันมหาวิหาร ๘๔๔ พระสูตร นอกนั้นเป็นของบุพพาราม ๒๓ พระสูตร และของอื่นๆ อีก ๔ พระสูตร เป็นพระสูตรในสังยุตตนิกาย ๗๓๖ พระสูตร, มัชฌิมนิกาย ๗๕ พระสูตร, อังคุตตรนิกาย ๕๔ พระสูตร อละทีฆนิกาย ๖ พระสูตร เช่น มงค,สูตร, ธชัคคสูตร, ทสธัมมสูตร, สาราณียธรรมสูตร, อหิราชสูตร, เมตตานิสังสสูตร, ศิริมานนทสูตร, ธัมมนิยามสูตร, อปัณณกสูตร, อนุตตริยสูตร, พลสูตร, มัคควิภภังคสูตร, โลกธัมมสูตร, ทสนาถกรณธัมมสูตร, อัคคัปปสาทสูตร, ปธานสูตร, อินทริยสูตร, อริยชนสูตร และสัปปุริสธัมมสูตร ฯลฯ
|
 |
บุคคลสำคัญ
๑) พระเจ้าปเสนทิโกศล ๗) พระกุมารกัสสปะ
๒) อนาถบิณฑิกเศรษฐี ๘) พระพาหิยะเถระ
๓) วิสาขามหาอุบาสิกา ๙) พระสิวสีเถระ
๔) องคุลีมาล ๑๐) เศรษฐีตีนแมว
๕) ปฏาจาราเถรี ๑๑) ภิกษุชาวเมืองปาเฐยยรัฐ ๓๐ รูป
๖) กีสาโคตรมี ๑๒) วังคีสพราหมณ์
|
 |
 |
การเดินชมเชตะวันฯ
เขตสังฆวาส
๑) หมู่กฎิภิกษุชาวโกสัมพี ๗) กุฎิพระโมคคัลลานะ
๒) หมู่กุฎิพระอุบาสี – ราหลุ ๘) กุฏิพระองคุลีมาล
๓) ธัมมิการามที่พิจารณาอธิกรณ์ประจำวัด ๙) กุฏิพระอานนท์
๔) เจดีย์อรหันต์ ๘ ทิศ ต้นกำเนิดสรภัญญะ ๑๐) กุฏิพระสารีบุตร
๕) กุฎิพระสิวลีเถระ ๑๑) อานนทโพธิ์
๖) กุฎิพระมหากัสสปะ ๑๒) ราชิการาม คือ สำนักของภิกษุณี
|
 |
เขตพุทธาวาส
๑) พระคันธกุฎีฤดูหนาว ๔) ศาลาโรงธรรม (อุโบสถ)
๒) พระคันธกุฎีฤดูร้อน ๕) ธรรมสภา (สถานที่ฟังธรรมของชาวเมือง)
๓) พระคันธกุฎีฤดูฝน ๖) บ่อน้ำพุทธมนต์
|
 |
สาระธรรมสำคัญ
๑) มงคล ๓๘ ประการ ๖) พรจากการถวายผ้ากฐิน
๒) อานิสงค์เมตตา ๑๑ ประการ ๗) การถวายผ้าอาบน้ำฝน
๓) เบญจกัลยาณี ๕ ประการ ๘) อาคันตุกภัตต์
๔) โอวาท ๑๐ ข้อ ที่ธนัญชัยเศรษฐีสอนวิสาขา ๙) คมิกภัตต์
๕) ไม่ควรดูหมิ่น ๔ อย่างว่าเล็กน้อย (กษัตริย์ – งู – ไฟ – ภิกษุ ๑๐) ศิลานภัตต์
|
 |
ราชอาณาจักรเนปาล
เมือง.....พุทธอุทยานลุมพินี เมือง.....มายาเทวีวิหาร
เมือง.....พระมหาบุรุษประสูติกาล เมือง.....ปาฏิหาริย์ ๗ ก้าวบาทเดินจร
เมือง.....เปล่งอาสภิวาจา เมือง.....เสาศิลาอโศกอนุสรณ์
เมือง.....เสด็จนิวัติพระนคร เมือง.....เวสสันดรบำเพ็ญบารมีทาน
เมือง.....เย็นกาย-ใจใต้ร่มโพธิ์ศรี เมือง.....โบกขรณีสุขเกษมศานต์
เมือง.....มรดกโลกจักรวาล เมือง.....ภาพโบราณล้ำค่าบุรินทร์
เมือง.....ราชกุมารีบารมีล้ำ เมือง.....หัตถกรรมงามศาสตร์-ศิลป์
เมือง.....EVEREST สุดยอดศิขรินทร์ เมือง.....น้อมจินต์กราบที่ประสูตรพระพุทธองค์ |
 |
คำอธิษฐาน ณ สถานที่ประสูติ ลุมพินี
ประการที่ ๑. ขอให้ธุรกิจก้าวหน้า
ประการที่ ๒. ขอให้ค้าขายร่ำรวย
ประการที่ ๓. ขอให้รูปสวยโสภา
ประการที่ ๔. ขอให้ปัญญาเลิศล้ำ
ประการที่ ๕. ขอให้ได้ค้ำชูวงศ์ตระกูล
ประการที่ ๖. ขอให้ได้เทิดทูลพระพุทธศาสนา
ประการที่ ๗. ขอให้บุตรธิดาเป็นคนดีมีศีลธรรม
|
เทียนเต็ก ซินแส
สอนดวงจีน
ดวงจีนดูง่าย
เหมือนอ่านหนังสือพิมพ์หน้าแรก
เจ้าของรถทัวร์นิมนต์พระและญาติโยมทั้งหมด
ไปฉันอาหารและทานอาหารที่บ้าน
 |
เขาให้เกียรติคณะเราอย่างสูง
โดยให้เราเข้าไปฉันข้าวในห้องนอน (ฉันบนเตียงนอน) |
 |
เขาถือว่าพระฉันอาหารบนเตียงเป็นมงคล |
 |
เลี้ยงจาปาตียัดไส้
จำชื่อไม่ได้ว่าเรียกอะไร แต่อร่อยมากๆ |
 |
สังเกตุดูให้ดีๆ
สีม่วงๆที่อยู่ในกาละมังแสตนเลสคือทับทิม
ทับทิมก็ต้องสีทับทิมจึงจะเป็นของแท้ ส่วนบ้านเราสีนี้หายาก |
 |
ผู้ชายที่อยู่ขวามือเป็นน้องคนเล็ก
มีภรรยาสองคนเป็นพี่น้องกัน เงินทองไม่รั่วไหล |
 |
เจ้าของบ้าน และเจ้าของรถ อัธยาศัยดีมากๆ |
 |
|
 |
|
 |
|
 |
|
จ้างช่างมืออาชีพแกะสลักพระมหาเจดีย์พุทธคยา
กลับถึงเมืองไทย โยมยวง สุยะธิ
และลูกๆนิมนต์พระไปฉันอาหารเพลที่ร้านญี่ปุ่น
 |
พระฉันอาหารแขกมาหลายวัน
พอกลับมาถึงเมืองไทยได้ฉันอาหารญี่ปุ่นอีก...ทั้งรำ...ทั้งแซบ... |
 |
ขออนุโมทนาสาธุุ.... |
 |
|
 |
|
 |
|
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
ไปปฏิบัติธรรมที่ประเทศอินเดียมา ๑๕ ครั้งแล้ว
ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ ๑๖
ปรากฏว่ารู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง |
 |
ไม่ต้องดูดวงก็รู้ได้
ใครได้ไปถือว่ามีวาสนาครับท่าน
|
 |
จะไป แต่ยังไม่ได้ไป
จึงต้องดูรูปเก่าไปพลางๆก่อน |
 |
พระพุทธรูปองค์นี้ อยู่ใกล้ๆวัดไทยกุสินารา
บริเวณที่โทฑณะพราหมณ์แจกพระบรมสารีริกธาตุ
อาตมาไปอินเดีย 14 ครั้ง
แต่ได้ไปกราบแค่ 1ครั้ง เท่านั้น |
 |
พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนไว้ในสติปัฎฐานสูตร
"ฐิโต วา ฐิโตมฺหีติ ปชานาติ" (เมื่อยืนอยู่ ก็รู้ว่ายืนอยู่)
"คัจฺฉันโต วา คจฺฉามีติ ปชานาติ" (เมื่อเดินอยู่ ก็รู้ว่ากำลังเดินอยู่)
"นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺฐเปตวา"
(นั่งคู้บัลลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า)
"สยาโน วา สยาโนมหีติ ปชานาติ" (เมื่อนอนอยู่ ก็รู้ว่ากำลังนอนอยู่)
|
 |
พระพุทธเมตตา (ปางยืน)
เป็นพระพุทธรูปที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในพุทธคยา |
 |
ใครมาที่พุทธคยาแล้วยังไม่ได้เห็นพระพุทธรูปองค์นี้
ถือว่ายังมาไม่ถึงพุทธคยา |
 |
พระมหาเจดีย์พุทธคยา
สูง 170 ฟุต วัดรอบฐาน 85 เมตร
เป็นเจดีย์ 2 ชั้น มีเจดีย์รอบฐาน 4 องค์ สูง 45 ฟุต
ชั้นบนประดิษฐาน พระปางประทานพร หรือพระพุทธเมตตา (ปางยืน)
ชั้นล่างประดิษฐานพระปางมารวิชัย หรือพระพุทธเมตตา (ปางนั่ง)
อายุ 1,400 ปีเศษ |
 |
บริเวณกลุ่มพุทธสถานพุทธคยา อันเป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงการตรัสรู้ของพระพุทธองค์นั้น เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่สมัย พระเจ้าอโศกมหาราช4
และสร้างต่อเติมเรื่อยมาโดยกษัตริย์ชาวพุทธในอินเดีย พระองค์ต่อ ๆ มา จนกระทั่ง เมื่อกองทัพมุสลิมบุกเข้ามาโจมตีอินเดีย พุทธคยาจึงถูกปล่อยให้รกร้างไม่มีผู้คอยเฝ้าดูแล
............สำหรับความเป็นไปขององค์พระมหาโพธิเจดีย์นั้น พระเจ้าหุวิชกะ (: Huvishka) มีพระราชศรัทธาสร้างมหาเจดีย์ถวายเป็นพุทธบูชา ในปี พ.ศ. 694 เพื่อเป็นสถานที่สักการะสำหรับพุทธบริษัท โดยได้สร้างเป็นพระเจดีย์รูปทรงสี่เหลี่ยมทรงรีสวยงามติดกับพระแท่นวัชรอาสน์ทางทิศตะวันออก มี 2 ชั้น โดยชั้นล่างเป็นสถานที่กราบนมัสการและชั้นบนเป็นห้องเจริญภาวนา ลักษณะของพระมหาโพธิเจดีย์มีเอกลักษณ์เฉพาะและตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์ของมหาโพธิมณฑลมากว่าสองพันปี ในบางช่วงพระราชาแห่งแคว้นต่าง ๆ ได้เข้ามาทำนุบำรุงอยู่เสมอ และได้รับการบูชารักษาจากชาวพุทธมาตลอด แต่มาขาดตอนไปเมื่อช่วงพันกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากแผ่นดินอินเดียแถบนี้ถูกคุกคามจากสงครามและการเสื่อมถอยของพระพุทธศาสนา พุทธคยาจึงถูกปล่อยทิ้งร้างและถูกชาวฮินดูเข้าครอบครอง รวมทั้ง แปลงมหาโพธิเจดีย์เป็นเทวสถาน |
 |
ความภาคภูมิใจในฐานะพุทธศาสนิกชนชาวไทย
๑. ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีชาวพุทธนับถือพระพุทธศาสนาแบบดั้งเดิม ที่ยังพร้อมด้วยหลักธรรม หลักวินัย หลักปฏิบัติ ยังธำรงคงไว้ซึ่งแก่นแท้ของความเป็นพุทธตั้งแต่สมัยพุทธกาลมาจนถึงปัจจุบันกาลได้ |
พุทธทาสภิกขุ
“ชาวพุทธต้องมีความกตัญญูกตเวที
การตอบแทนนี่จะไม่ใช่เพียงตอบแทนอินเดีย
แต่มันจะตอบแทนพระคุณของพระพุทธเจ้าด้วย
พระพุทธเจ้าเป็นคนอินเดีย ศาสนาของพระองค์เกิดในอินเดีย
พุทธศาสนาเป็นศาสนาของอินเดีย”
(จาก...พระคุณของอินเดียที่มีต่อไทย)
|
 |
๒.เพราะเรามีบุญเคยสร้างกุศล บำเพ็ญบารมีกับพระพุทธศาสนามาตั้งแต่อดีตชาติอันเป็นบุพเพกตปุญญตา มาในชาตินี้บุญกุศลจึงส่งหนุนนำให้มาเกิดเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนาที่เจริญรุ่งเรือง ณ เมืองไทย พร้อมมีศรัทธาเลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนา และมีโอกาสได้เดินทางไปถึงต้นกำเนิดแห่งพระพุทธศาสนา คือที่อินเดีย เท่ากับว่าได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดของตนเอง หากว่าชาตินี้ไปเกิดแผ่นดินที่อื่นๆ หรือแม้แต่ที่ประเทศอินเดียที่อดีตพระพุทธศาสนาเคยเจริญรุ่งเรือง ปัจจุบันก็แทบจะไม่มีพระพุทธศาสนาให้รู้จักให้ศรัธาได้เลย |
 |
๓.ไทยเรามีความสงบร่มเย็นเป็นสุขได้ ก็เพราะภายใต้พระบารมีขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภ์ ทรงเป็นพุทธมามะกะ เป็นร่มเงาแห่งพระพุทธศาสนา ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองที่บ้านพุทธเมืองไทยมาตราบจนปัจจุบันนี้ |
 |
๔. ขอให้ชาวพุทธไทย จงภูมิใจว่า โลกปัจจุบันท่ามกลางการก่อการร้ายและภัยสงคราม ความโหดร้ายภัยพิบัติจากธรรมชาติ โลกของเรากลายเป็นสถานที่ที่ไม่น่าอยู่และไม่ปลอดภัยต่อการดำรงชีวิต พระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นดุจแสงทองแห่งความหวังของมวลมนุษย์และตลอดถึงชาวโลกทั้งหมดได้ประจักษ์ว่า พระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาเป็นหลักนำสันติภาพมาแก่มนุษย์โลกได้อย่างแท้จริง โลกตะวันตกกำลังหันมาให้ความสนใจ ศึกษาเรียนรู้ปฏิบัติตนตามหลักคำสอนพระพุทธศาสนาที่พวกเรารักษาไว้ให้จนถึงปัจจุบัน
และองค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้วันวิสาขะบูชาเป็นวันสำคัญของโลก (The World's importance Day) เพื่อน้อมรำลึกนึกถึงองค์ศาสดาของชาวพุทธ และจักเป็นโอกาสแห่งการน้อมนำพระธรรมคำสอนมาร่วมใจกันปฏิบัติกันทั่วโลก เพื่อความสงบร่มเย็น ดับความทุกข์เข็ญและความเดือดร้อนของชาวโลกสืบไป
บทความโดย: ดร.พระมหาคมสรณ์ คุตฺตธมฺโม (ท่านคมสรัญญ์) |
 |
บนระเบียงพระวิหารชั้นสอง พุทธคยา |
 |
ทางขึ้นพระวิหารชั้นสอง |
 |
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
"ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราได้แสดงไว้ และบัญญัติไว้ดีแล้ว
นั่นแหละ จักเป็นพระศาสดาของพวกท่านสืบแทนเราตถาคต
เมื่อเราล่วงไปแล้ว" |
 |
|
 |
|
 |
|
 |
|
 |
ประวัติศาสตร์พุทธคยา
พุทธคยา คือสถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ห่างจากฝั่งออกไปประมาณ 200 เมตร อยู่ด้านทิศตะวันตก บริเวณเป็นที่เนินสูง เพราะเป็นซากของมหาสังฆารามโบราณ ที่นี่เคยเป็นที่พักของพระสงฆ์ถึง 2,000 รูป ล้วนใฝ่ใจในการศึกษา ปฏิบัติงดงามตามธรรมวินัย มหาชนเลื่อมใสเป็นจำนวนมาก พระพุทธศาสนานิกายเถรวาทได้เจริญรุ่งเรืองในดินแดนแถบนี้ถึง พ.ศ. 700 หลังจากนั้นก็เริ่มอ่อนกำลังลง |
 |
มหาปรินิพพานสูตร อันเป็นพระสูตรที่กล่าวถึงเหตุการณ์ก่อนเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานพระพุทธองค์ได้ตรัสกับพระอานนท์ว่า
“ดูก่อนอานนท์ ชนเหล่าใดเที่ยวจาริกไปยังสังเวชนียสถาน ๔ สถาน คือสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และเสด็จดับขันธปรินิพพาน เหล่านี้แล้ว หากมีจิตเลื่อมใส ชนเหล่านั้นทั้งหมดเบื้องหน้าแต่กายเพราะกายแตกจักเข้าถึงสุคติคือโลกสวรรค์” |
 |
พระมหาเจดีย์พุทธคยา สูง 170 ฟุต วัดรอบฐาน 85 เมตร
เป็นเจดีย์ 2 ชั้น มีเจดีย์รอบฐาน 4 องค์ สูง 45 ฟุต
ชั้นบนประดิษฐาน พระปางประทานพร
ชั้นล่างประดิษฐานพระปางมารวิชัย หรือพระพุทธเมตตา
อายุ 1,400 ปีเศษ |
 |
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ (โพธิ์บัลลังก์) ปัจจะบันเป็นต้นที่ 4
ปลูกเมื่อ พ.ศ. 2423
ที่อธิษฐานปลูกโดย "คันนิ่งแฮม" |
 |
ต้นที่ 1 เป็นสหชาติเกิดพร้อมกับพระพุทธเจ้า มีอายุได้ 352 ปี
สาเหตุหมดอายุเพราะพระชายาของพระเจ้าอโศก
ให้หญิงสาวใช่้มาทำลาย |
 |
ต้นที่ 2 เกิดจากแรงอธิษฐานของพระเจ้าอโศกมหาราช
อายุได้ 891 ปี ถูกกษัตริย์ศสางกา สั่งทหารทำลายประมาณปี พ.ศ. 1,100 เศษ |
 |
ต้นที่ 3 เกิดจากแรงอธิษฐานของกษัตริย์ปูรณะวรมา มีอายุประมาณ 1,258 ปี
หมดอายุขัยเอง |
 |
นี่ก็เรื่องแปลก
“นักท่องยุโรป-อเมริกา รวมทั้งนักท่องรอบโลกหลายท่าน...ให้ข้อคิดเห็นว่า...
ที่ไปทุกแห่งแสนสะดวกสบาย ประเทศสนุกก็ว่าแสนสนุก...
เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วก็หมดกัน
แปลกเป็นพิเศษก็คือ...ท่องอินเดีย สะดวกก็ไม่สะดวก สบายก็ไม่สบาย
สนุกก็ไม่สนุก แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว กลับคิดถึงอินเดีย...แปลกจริงๆ
...อินเดียมีอะไรหรือ ?”
|
 |
ท่านพุทธโฆษาจารย์ ได้เล่าว่า ท่านเป็นศิษย์ของพระเรวตะแห่งพุทธคยามหาสังฆาราม ได้เดินทางไปแปลคัมภีร์พระไตรปิฏกจากภาษาสิงหล กลับมาเป็นภาษามคตที่เกาะลังกา |
 |
พุทธคยาเป็นเขตอิทธิพลของพวกฮินดู คยาเกษตรใช้เป็นที่บูชาถวายบิณฑ์ 1 ใน 16 แห่ง เป็นสถานที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์ ที่นี่จึงเรียก "พุทธคยา" |
 |
ปัจจุบัน เป็นสถานที่อันยิ่งใหญ่มีนักแสวงบุญจากทั่วโลก มาไหว้พระ สวดมนต์ ตลอดทั้งปี |
 |
หลังจากพระพุทธองค์ตรัสรู้แล้ว จึงได้เสวยวิมุตติสุขอยู่ 7 สัปดาห์ แล้วเสด็จไปเมืองพาราณสี เมื่อมีสาวกมากขึ้นพระพุทธองค์จึงได้ส่งพระสาวกไปประกาศพระศาสนา ครั้งนั้นพระพุทธองค์ได้เสด็จกลับมาเพื่อโปรดชฏิลสามพี่น้องพร้อมบริวารจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ จากนั้นพระองค์ก็บำเพ็ญพุทธกิจยังแคว้นต่างๆจนเข้าสู่การปรินิพพาน |
 |
พ.ศ.228-240 พระเจ้าอโศกได้เสด็จมาสักการะ ณ สถานที่ตรัสรู้ ได้สร้างพระสถูปขนาดย่อมๆ เพื่อบูชา และปักเสาศิลาไว้เป็นเครื่องหมาย สร้างพระแท่นวัชรอาสน์ รั้วทำด้วยหินล้อมรอบต้นพระศรีมหาโพธิ์ |
 |
พ.ศ.674-694 พระเจ้าหุวิชกะ ทรงสร้างเสริมให้เป็นศิลปต้นแบบ เป็นสถูปใหญ่ หลวงจีนถังซำจั๋งเรียกว่า "มหาโพธิ์วิหาร" |
 |
" มหาโพธิ์วิหาร" เป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมแหลม ทรงกรวย ห่างจากต้นโพธิ์ 2 เมตร มีพระแท่นวัชรอาสน์ขั่นกลาง ขนาดสูง 170 ฟุต วัดรอบฐานขนาด 85 ฟุตเศษ มี 2 ชั้น มีเจดีย์บริวาร 4 องค์ ทรงเดียวกันอยู่บนฐานชั้นที่สอง สูง 45 ฟุต ส่วนชั้นล่างประดิษฐานพระพุทธเมตตา " ปางมารวิชัย " สร้่างจากหินแกรนิตสีดำ สมัยปาละอายุประมาณ 1,400 ปีเศษ ชั้นบนประดิษฐานพระพุทธปฏิมา " ปางประทานพร " สร้างในสมัยเดียวกัน |
 |
พ.ศ.945-950 หลวงจีนฟาเหียนเดินทางมาสักการะสถานที่ตรัสรู้และได้พรรณาถึงความงดงามของพระมหาเจดีย์พุทธคยา เห็นพระสงฆ์เถรวาทและพุทธศาสนิกชนมาสักการะกันอย่างมิขาดสาย |
 |
พ.ศ.1145 กษัตริย์รัฐเบงกอล นามสสางกะ ได้ประกาศอิสระจากมคธยกทัพมาทำลายพุทธสถาน อย่างย่อยยับ |
 |
พ.ศ. 1145 กษัตริย์ปูรณวรมา ตีทัพเบงกอลแตกแล้วทำการบูรณซ่อมแซม |
 |
พ.ศ. 1491 อมรเทวพราหมณ์ ปุโรหิตของพระเจ้าวิกรมาทิตย์ แห่งเมืองมัลวาบอกไว้ในหนังสืออมรโฆษว่าออกแบบวิหารโพธิ์ใหม่ให้เป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน |
 |
พ.ศ.1578 พม่าส่งคณะช่าง นำโดย ธรรมราชครู เพื่อบูรณะแต่เกิดข้อพิพาทกันกับอินเดีย พม่าเลยหยุดการซ่อมแซม |
 |
บวชเณรใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
แล้วไปบวชพระต่อที่โบสถ์วัดไทยพุทธคยา |
 |
พ.ศ. 1622 พม่าส่งช่างชุดที่ 2 มาฟื้นฟูบูรณะใช้เวลา 7 ปี เสร็จเมื่อ 18 ตุลาคม พ.ศ. 1629 พุทธคยามีชีวิตกลับมาอีกครั้งหนึ่ง |
 |
พ.ศ. 1743 พระธัมมรักขิตรับทุนจากพระเจ้าอโศกมัลละแห่งแคว้นสิวะสิกะอินเดียมาปฏิสังขรณ์เพิ่ม เติมให้ดียิ่งขึ้น |
 |
พ.ศ. 1760 อิสลามกองทัพเติร์กยึดครองมคธรัฐทำลายล้างพุทธสถานทั้งหมด พร้อมกับยกพุทธคยานี้ให้อยู่ในการดูแลของฮินดูนิกายมหันต์ โดยอ้าง เมื่อพ.ศ. 1727 จักรพรรดิ์โมกุนนามมูฮัมหมัดซาห์ ได้มอบพุทธคยาทั้งหมดเป็นสมบัติของมหันต์ องค์ที่4 ชื่อว่า " ลาลคีรี " จากนั้นพุทธคยาก็ถูกทอดทิ้งหลายร้อยปี ไม่มีการบูรณะ มีชาวพุทธมาสักการะเพียงเล็กน้อย |
 |
พ.ศ. 2133 พุทธคยาสังคาราม ถูกมุสลิมคุกคามถูกพวกพราหมณ์รังแก ในที่สุดหลุดจากมือชาวพุทธอย่างเด็ดขาดตกอยู่ในความคุ้มครองของนักบวชมหันต์ นิกายทัสนามิสันยาสีที่ชื่อ โคสายฆมันคีร์คีรี |
 |
พ.ศ. 2135 อังกฤษยึดครองอินเดีย |
 |
พ.ศ. 2354 พระเจ้าแผ่นดินพม่าเสด็จมาเห็น จึงได้ส่งทูตมาเจรจาขอบูรณะ ตามบันทึกของ ดร.บุคานัน แฮมินตัน บอกว่าพุทธคยาอยู่ในสภาพย่อยยับไม่ได้รับการดูแล |
 |
พ.ศ. 2417 พระเจ้ามินดงเจรจาผ่านรัฐบาลอินเดียซึ่งเป็นของอังกฤษแล้ว อังกฤษส่งคนมาช่วย 2 นายเพื่อกำกับคือ " อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม กับ ดร.ราเชนทร ลาลมิตระ " |
 |
พ.ศ. 2419 พม่าเกิดสงครามกับอังกฤษงานบูรณะจึงต้องหยุด |
 |
พ.ศ. 2423 เซอร์อเล็กซานเดอร์ ดร. ราเชนทร, เซอร์อีแดน แต่งตั้งให้นาย เจ ดี เบคก้า ทำการปฏิสังขรณ์ เสร็จในปี พ.ศ. 2427 ( 4 ปี ) |
 |
|
 |
|
 |
ช่องมีทั้งหมด 8 ช่อง ( 8ทิศ) เคยประดิษฐานพระพุทธรูปทุกช่อง
ปัจจุบันไม่เหลือให้เห็นแล้ว |
 |
|
 |
ที่ตั้งตำแหน่งพระอรหันตฺ์ 8 ทิศ
ใครสวดได้ก็จะรู้ว่าทิศใด พระอรหันต์อยู่ตำแหน่งไหน |
 |
|
 |
 |
สาเหตุที่มาคงคา
มา...บูชาพระบรมสารีริกธาตุ มา...ดูการประกาศศาสนา
มา...ดูคนอาบสรงในคงคา มา...ดูการน้อมวันทาดวงอาทิตย์
มา...ดูพิธีกรรมการเผาศพ มา...ดูการเคารพน้ำศักดิ์สิทธิ์
มา...ดูการปลงสัจจะแห่งชีวิต มา...เพ่งพินิจสองฟากฝั่งอย่างเห็นธรรม |
 |
|
 |
นิลกาย สัตว์ป่าหิมพาน
ตัวเหมือนม้า หน้าเหมือนกวาง หางเหมือนแพะ |
|
 |
เมืองสาวัตถี มหานครแห่งคนดี
เมือง.....เศรษฐีลือนาม เมือง.....หญิงงามลือชื่อ
เมือง.....เลื่องลือโพธิ์อานนท์ เมือง.....เดียรถีเสียท่า
เมือง.....๒๕ จำกาลฝน เมือง.....ปราบโหราจารย์พาลชน
เมือง.....แสดงมงคล ๓๘ ประการ เมือง.....กฐินถูกยอยก
เมือง.....แสดงยมกปาฏิหาริย์ เมือง.....จอมโจรองคุลีมาร
เมือง.....ตำนานพระสีวลี เมือง.....ธรณีสูบคนบาป
เมือง.....กำราบคนหมองศรี เมือง.....มากหมู่พระกุฎี
เมือง.....สร้างบารมี ศีล ทาน ภาวนา ฯ |
 |
คำขวัญเมืองพาราณสี
เมืองเรืองนามความเก่าแก่ เมืองแม่น้ำคงคาธาราสินธุ์
เมืองเคี้ยวหมากปากแดงแข่งกันกิน เมืองผ้าซิ่นแพรไหม (ส่าหรี)
เมืองแม่ม่ายทูนหัวผัวตามปะ เมืองมรณะปละปล่อยที่ที่ลอย
เมืองหมุนล้อจักรหลักพระธรรม เมืองเลิศล้ำสรรพวิชามหาลัย
เมืองมหาเทพเสพองค์พระศิวะ เมืองมฤคทายวันไพรสณฑ์ใหญ่
เมืองมนต์ขลังติดตรึงจนฝังใจ |
 |
|
 |
คำอธิษฐานที่สารนาถ
๑.ให้ได้ดวงตาเห็นธรรมเหมือนพระโกณฑัญญะ
๒.ให้สุขภาพแข็งแรง พลานามัยสมบูรณ์ อายุยืนเหมือนพระพากุละ
๓.ไปไกล้ไกลให้ปลอดภัยเหมือนพญากวางทอง
๔.ให้ศรัทธาตั้งมั่นเหมือนบิดาพระยสะ หรือ
๕.ให้ได้บริวารเป็นมิตร ปิดศัตรู ได้ความไม่วุ่นวายไม่ขัดข้อง ได้ดวงตาเห็นธรรมล้ำเลิศ |
 |
ธัมเมกขสถูป คือสถานที่แสดงธรรมที่นำให้ถึงความหลุดพ้น เป็นสถูปโบราณทรงบาตรคว่ำก่อด้วยหินทราย สถูปสร้างอุทิศแด่ผู้เห็นธรรม ยอดทรงกรวย สูง 80 ฟุต โดยรอบ 120 ฟุต สร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ณ ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดพระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 คือ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหามานะและอัสชิ เนื้อหาธรรม ว่าด้วยทางสายกลางอันเป็นแนวทางใหม่ในการปฏิบัติเพื่อการดับทุกข์และเข้าถึงนิพพานอันเป็นปลายทางแห่งพุทธศาสนา โดยรอบสถูปมี 8 ช่อง มีพระพุทธรูปทองคำประดิษฐานครบ ผู้แสวงบุญจะเดิน ประทักษิณาวัตร สวดมนตร์ ไหว้พระ เป็นที่ที่โกณฑัญญพราหมณ์ได้ดวงตาเห็นธรรมและอุปสมบทเป็นภิกษุองค์แรกในพุทธศาสนา ยังเป็นที่ที่ส่งพระธรรมทูตชุดแรก จำนวน 60 รูป ไปประกาศพระธรรมเป็นครั้งแรก |
 |
พ.ศ. 2433 ท่านเซอร์ เอ็ดวิน อาร์โนลด์ ฝรั่งอังกฤษชาวพุทธได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า " The Light of Asia " |
 |
พ.ศ. 2434 อนาคาริกธัมปาละ ชาวศรีลังกามากราบพุทธคยาเกิดศรัทธาปรารถนาเรียกร้องสิทธิของความเป็นเจ้าของพุทธคยา 31 ตุลาคม พ.ศ. 2434 ได้ประชุมชาวพุทธสากลที่พุทธคยา มีพม่า ลังกา จีน ญี่ปุ่น แล้วญี่ปุ่นได้ประกาศว่าจะหาเงินมาซื้อพุทธคยาคืน อังกฤษระแวงญี่ปุ่นเพราะเพิ่งรบชนะรัสเซียจึงไม่ยอมให้ครอบครอง จึงเกิดขบวนการกอบกู้พุทธคยา (แม็กมึล, เอ็ดวินฯ, วิลเลี่ยม, พ.อ. โอลคอตต์ ) ออกปราศัยที่ พม่า - อังกฤษ - สิงคโปร์ - ไทย - ลังกา - หาผู้สนับสนุน |
 |
พ.ศ. 2436 อนาคาริกธัมมปาละ กลับมาพุทธคยาพร้อมกับ โอลคอตต์ และ MR. เอดช์ นักเทววิทยาได้เห็นพระ 4 รูป ถูกพวกมหันต์ทุบตีเกือบตาย ซ้ำร้ายเขายังกีดกันมิให้พวกธรรมยาตราเข้าสักการะพุทธคยา |
 |
พ.ศ. 2438 ชาวพุทธขอนำพระพุทธรูปอายุ 700 ปี เข้าไปประดิษฐานแต่พวกมหันต์ก็ไม่เห็นด้วย อ้างว่า " พระพุทธเจ้าเป็นเพียงอวตารปางที่ 9 ของพระนารายณ์ " |
 |
พ.ศ. 2445 มีความเคลื่อนไหวทั่วโลก โดยเอดวิน อาร์โนล, ดร. ริดเดวิด, ศ. แมคมึลเลอร์ ชาวพุทธเริ่มมีพลัง พวกมหันต์เพิ่มความรังเกียจชาวพุทธมากยิ่งขึ้น |
 |
|
 |
|
 |
|
 |
|
 |
พระอานนท์เป็นพระภิกษุอุปัฏฐากของพระพุทธเจ้า
ก่อนท่านรับตำแหน่งนี้ เคยมีพระภิกษุ
หลายรูปทำหน้าที่นี้มาก่อน แต่ท่านเหล่านั้นรับหน้าที่ดังกล่าวไม่นาน
ก็กราบทูลลาพระพุทธเจ้าออกไป
ผู้รับหน้าที่อุปัฏฐานพระพุทธเจ้าเป็นเวลานานที่สุด
จนพระพุทธเจ้านิพพาน จึงได้แก่พระอานนท์

โดยความสัมพันธ์ทางพระญาติ
พระอานนท์มีศักดิ์เป็นพระอนุชาหรือน้องชายของพระพุทธ
เจ้า เพราะบิดาของท่านเป็นน้องชายของบิดาของพระพุทธเจ้า
นี่ว่าอย่างสามัญ

ตลอดเวลาที่รับหน้าที่อุปัฏฐากพระพุทธเจ้า
พระอานนท์ตามเสด็จพระพุทธเจ้าไปทุกหนทุก
แห่ง คอยปรนนิบัติอุปัฏฐากพระพุทธเจ้ามิได้บกพร่อง
ด้วยเหตุดังกล่าวท่านจึงไม่มีเวลาบำเพ็ญกิจส่วนตัว
พรรคพวกรุ่นเดียวกันที่ออกบวชพร้อมกัน (ยกเว้นพระเทวทัต)
ต่างได้สำเร็จอรหันต์กันทั้งสิ้น
ส่วนพระอานนท์ได้สำเร็จมรรคผลเพียงชั้นโสดาเท่านั้น |
 |
พ.ศ. 2467 ชาวพุทธพม่า, ลังกา, เนปาล, ร้องเรียนรัฐบาลพรรคคองเกรส์ ตั้งคณะกรรมมาธิการขึ้นพิจารณา โดยมี ดร. ราเชนทร์ ประสาท ( ประธานาธิบดีเป็นประธาน ) ตั้งกรรมการชาวพุทธ 5 คน ฮินดู 5 คน ดูแลพุทธคยา โดยออกกฏหมายบังคับ |
|
ความเห็นของ มหาตมคานธี คือ "วิหารพุทธคยานี้ควรเป็นสมบัติของชาวพุทธโดยชอบธรรม การนำสัตว์ไปฆ่าทำพลีกรรมในวิหารมหาโพธิ์ไม่สมควร เพราะล่วงละเมิดต่อสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนา เป็นการประทุษร้ายต่อจิตใจของชาวพุทธทั่วไป " |
|
"มหาปรินิพพานวิหาร" ตั้งอยู่ด้านหน้าในฐานเดียวกันกับสถูปปรินิพพาน ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางเสด็จดับขันธปรินิพพาน (คือพระพุทธรูปนอนบรรทมตะแคงเบื้องขวา) ศิลปะมถุรา มีอายุกว่า 1,500 ปี ในจารึกระบุผู้สร้างคือ หริพละสวามี โดยนายช่างชื่อ ทินะ ชาวเมืองมถุรา ในปัจจุบันพระพุทธรูปองค์นี้ถือได้ว่าเป็นจุดหมายสำคัญที่ชาวพุทธจะมา สักการะ เพราะเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะอันพิเศษคือเหมือนคนนอนหลับธรรมดา แสดงให้เห็นว่าพระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานจากไปอย่างผู้หมดกังวลใน โลกทั้งปวง |
 |
ความเห็นของ ระพินทรนาถฐากูร คือ "ที่ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณนี้จะตกอยู่ในความดูแลของศาสนาอื่นไม่ได้ เพราะศาสนาอื่นไม่เกี่ยวข้องและไม่มีเยื่อใยอะไรต่อพระพุทธศาสนา" |
 |
กุสินารามหานคร
เมือง.....ตรัสสอนสังเวชนีฯ ๔ สถาน เมือง.....เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน
เมือง.....ประทานปัจฉิมวาจา เมือง.....สุทัศนะมหาจักรพรรเมือง.....จอมปราชญ์โทณพราหมณ์งามภาษา เมือง.....สตรีใจเพชรมัลลิกา
เมือง.....เสนาบดีศรีนาคร เมือง.....ทรงโปรดปัจฉิมสาวก
เมือง.....มรดกพินัยกรรมคำสั่งสอน เมือง.....สิ้นสุดพุทธกิจพระบิดร
เมือง.....อนุสรณ์มกุฏพันธนเจดีย์ เมือง.....เถระทัพพมัลลบุตร
เมือง.....เทพมนุษย์พร้อมภักดิ์ด้วยศักดิ์ศรี เมือง.....ซาบซึ้งน้ำพระทัยพระภูมี
เมือง.....ปฐพีร่ำไห้อาลัยศาสดา ฯ |
 |
พ.ศ. 2490 อินเดียเป็นเอกราชจากอังกฤษ มหาโพธิ์สมาคมรบเร้าสิทธิพุทธคยา |
 |
พ.ศ. 2491 ดร. ศรีกฤษณะ ซิงห์ นายกรัฐมนตรีพิหาร ได้เสนอให้ร่างรัฐบัญญัติวิหารพุทธคยา |
 |
พ.ศ. 2492 เดือนพฤษภาคม จัดตั้งคณะกรรมการดูแล 9 คน มีผู้ว่าจังหวัดคยาเป็นประธาน และมีกรรมการ 8 คน เป็นชาวพุทธ 4 คน ฮินดู 4 คน |
 |
พ.ศ. 2496 นายกรัฐมนตรีพม่ามาเยือน พวกมหันต์บอกว่าได้ยกพุทธคยาให้ชาวพุทธ |
 |
พ.ศ. 2530 ภิกษุไซไซ ชาวญี่ปุ่นนำชาวพุทธจากนาคปูร์ ในรัฐมหารชตเรียกร้องให้นำศพมหันต์ที่ฝังไว้ และปัญจปาณฑปพร้อมศิวลึงค์ที่กลางวิหารออกไปที่อื่น |
 |
พ.ศ. 2499 บูรณะเล็กน้อยเพื่อฉลองพุทธคยาชยันตีพุทธศาสนาอายุ 2,500 ปี |
 |
พ.ศ. 2512 พระสุเมธาธิบดี ได้นำพุทธบริษัทชาวไทยประดับไฟแสงจันทร์ |
 |
พ.ศ. 2519 พุทธบริษัทชาวไทย สร้างกำแพงแก้ว 80 ช่อง ซุ้มประตูแบบอโศก 2 ซุ้ม เสร็จในปี 2520 |
 |
พ.ศ. 2530 ชาวพุทธเนปาลปูหินอ่อน |
 |
|
 |
บัดนี้ได้แค่นี้ |
 |
ร่วมสาธยายพระไตรปิฏกนานาชาติ |
 |
เมื่อก่อนจ้างช่างปักตัวอักษรอย่างดีบนผืนผ้าสีทอง
เหมือนกับปักชื่อโรงเรียนบนหน้าอกนักเรียน |
 |
ไปถึงที่ไหนมีป้ายทุกที่ว่าบัดนี้ได้มาถึงแล้ว |
 |
ที่กาลจักร สถานที่รวมชาวพุทธทั้งหมด
ที่มาร่วมพิธีสาธยายพระไตรปิฏกนานาชาติทุกครั้ง |
 |
บัดนี้ได้มาถึงพุทธคยา
สถานที่ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณของพระพุทธเจ้า |
 |
บัดนี้ได้มาถึงลุมพินีวัน
สถานที่ประสูตรของพระพุทธเจ้า |
 |
บัดนี้ได้มาถึงเขาคิชเฌอกูฏ
มูลคันธกุฏีของพระพุทธเจ้าเรียบร้อยแล้ว |
 |
บัดนี้ได้มาถึงสารนาถ
สถานที่พระพุทธองค์แสดงปฐมเทศนา
ความสำคัญของสารนาถคือ เมืองปฐม
ปฐมเทศนาอริยสัจ ปฐมอุบัติพระอริยะสงฆ์
ปฐมพรรษาพระพุทธองค์ ปฐมวงศ์เหล่ากออุบาสิกา
ปฐมวงศ์เหล่ากออุบาสก ปฐมศกเผยแพร่พุทธศาสนา
ปฐมความงามแห่งปฏิมา ปฐมพาราพุทธสัญจร |
 |
บัดนี้ได้มาถึงวัดเวฬุวัน มหาวิหาร
วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา เรียบร้อยแล้ว |
 |
โบสถ์สีทองวัดแดงประชาราษฏร์
ต.บางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี |
 |
|
 |
ติดต่อสอบถามมาที่ พระอ.ธงชัย ธมฺมกาโม
เทียนเต็ก ซินแส
081-936-6908 02-408-7443
www.tiantek.com www.tiantekpro.com www.tiantek.net www.henghengheng.com |
|
 |
|
 |
โหลดหนังสือฟรี.ครับ
ไปที่ www.tiantek.com
หรือไปที่ www.henghengheng.com
 |
|
 |
เทียนเต็ก ซินแส
"มีคนเขาว่ามาอินเดีย เพื่อไหว้พระรับพร
แต่ไปเมืองจีนเพื่อไหว้เจ้ารับโชค"
วันนี้มีเรื่องเบาๆมาเล่าสู่กันฟังเพื่อความสนุกสนาน
ให้กับผู้ที่คิดว่าจะเดินทางจาริกไปยังดินแดนพุทธิภูมิ
ตามรอยพระศาสดา
ณ สาธารณรัฐอินเดีย
และสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล
จากการสอบถามผู้ที่ได้เดินทางร่วมมากับคณะ
ประมาณหลายสิบคนว่า
เพราะใดจึงได้เดินทางมากับทัวร์คณะนี้
ได้รับคำตอบว่าเป็นเพราะทัวร์คณะนี้มีราคาแพงที่สุด
ได้สอบถามต่อไปอีกว่า
เมื่อรู้ว่ามันแพงแล้วทำไมยังเลือกมากับทัวร์คณะนี้
ได้รับคำตอบว่าที่เลือกมากับทัวร์คณะนี้ก็เพราะว่ามันแพงนะซิ
ก็เลยทราบว่าโยมคณะนี้เลือกเดินทางมากับ
ทัวร์ที่มีราคาแพงเป็นอันดับแรก
ส่วนการบริการจะดีหรือไม่ดีไว้เป็นอันดับหลัง
(คิดว่าของแพงต้องดี)
|