พระวิมุตติสุข (พระนิพพาน)
|
|
พระวิมุตติสุข
วิมุตติสุข สุขเกิดแต่ความหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะและปวงทุกข์;
พระพุทธเจ้าภายหลังตรัสรู้แล้วใหม่ ๆ ได้เสวยวิมุตติสุข ๗ สัปดาห์ตามลำดับคือ
สัปดาห์ที่ ๑ ประทับภายใต้ร่มไม้มหาโพธิ์
ทรงพิจารณาปฏิจจสมุปบาท
สัปดาห์ที่ ๒ เสด็จไปประทับยืนด้านอีสาน
ทรงจ้องดูต้นมหาโพธิ์ไม่กระพริบพระเนตร ที่นั้นเรียกว่า อนิมิสเจดีย์
|
|
สัปดาห์ที่ ๓ ทรงนิรมิตที่จงกรมขึ้น
ระหว่างกลางแห่งพระมหาโพธิ์และอนิมิสเจดีย์
เสด็จจงกรมตลอด ๗ วัน ที่นั้นเรียก รัตนจงกรมเจดีย์
สัปดาห์ที่ ๔ ประทับนั่งขัดบัลลังก์พิจารณาพระอภิธรรมปิฎก
ณ เรือนแก้วที่เทวดานิรมิตในทิศพายัพแห่งต้นมหาโพธิ์
ที่นั้นเรียก รัตนฆรเจดีย์
|
|
สัปดาห์ที่ ๕ ประทับใต้ร่มไม้ไทร ชื่ออชปาลนิโครธ
ทรงตอบปัญหาของพราหมณ์หุหุกชาติ
แสดงสมณะและพราหมณ์ที่แท้
พร้อมทั้งธรรมที่ทำให้เป็นสมณะและเป็นพราหมณ์
พระอรรถกถาจารย์กล่าวว่าธิดามาร ๓ คนได้มาประโลมพระองค์ ณ ที่นี้
สัปดาห์ที่ ๖ ประทับใต้ต้นไม้จิก ชื่อ มุจจลินท์
มีฝนตก มุจจลินทนาคราชมาวงขนดแผ่พังพานปกป้องพระองค์
ทรงเปล่งอุทานแสดงความสุขที่แท้ อันเกิดจากการไม่เบียดเบียนกัน เป็นต้น
|
|
สัปดาห์ที่ ๗ ประทับใต้ต้นไม้เกต ชื่อราชาตนะ
พาณิช ๒ คน คือ ตปุสสะและภัลลิกะ
เข้ามาถวายสัตตุผงสัตตุก้อน และได้แสดงตนเป็นปฐมอุบาสกถึงสรณะ ๒
เมื่อสิ้นสัปดาห์ที่เจ็ด ณ ที่นี้แล้ว
เสด็จกลับไปประทับใต้ต้นอชปาลนิโครธอีก
|
|
ทรงดำริถึงความลึกซึ้งแห่งธรรมที่ตรัสรู้คือ
ปฏิจจสมุปบาทและนิพพาน
แล้วน้อมพระทัยที่จะไม่แสดงธรรม เป็นเหตุให้
สหัมบดีพรหมมากราบทูลอาราธนา
และ ณ ที่นี้เช่นกัน
ได้ทรงพระดำริเกี่ยวกับสติปัฏฐาน ๔
ที่เป็นเอกายนมรรคและอินทรีย์ ๕ อันมีอมตธรรมเป็นที่หมาย
พึงสังเกตว่า
เรื่องในสัปดาห์ที่ ๒-๓-๔ นั้น
เป็นส่วนที่พระอรรถกถาจารย์กล่าวแทรกเข้ามา
ความนอกนั้นมาในมหาวรรคแห่งพระวินัยปิฎก (เรื่องดำริถึงสติปัฏฐานและอินทรีย์ มาในสังยุตตนิกายมหาวารวรรค พระสุตตันตปิฎก)
|