พระพุทธเมตตา
พระบูชา
ขนาดหน้าตัก 2 นิ้ว
วัดแดงประชาราษฎร์ จ.นนทบุรี
บูชาองค์ละ 599 บาท
|
พระพุทธเมตตาเนื้อทองเหลืองขัดเงา ขนาด 2 นิ้ว (ผ่านพิธีพุทธาภิเษกมาหลายครั้ง) ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด |
|
ใต้ฐานอุดผงบดละเอียดจากกิ่งพระศรีมหาโพธิ์ และบรรจุพระพุทธเมตตาองค์เล็ก ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดด้วย 1 องค์ |
|
พระพุทธเมตตาเนื้อทองเหลืองรมดำ ขนาดหน้าตัก 2 นิ้ว บูชาองค์ละ 599 บาท |
พระเกจิอาจารย์ที่ร่วมพิธีอธิษฐานจิต
วัตถุมงคลของวัดแดงประชาราษฎร์
ฉลองพุทธขยันตี 2600 ปี
18 ต.ค.2555
|
พระครูนนทกิจพิบูลย์ (หลวงปู่เก๋ ถาวโร) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ จ.นนทบุรี อายุ 101 ปี พรรษา80 |
|
พระครูประโชติธรรมวิจิตร(หลวงพ่อเพิ่ม) วัดป้อมแก้ว จ.พระนครศรีอยุธยา อายุ 86ปี
|
|
พระครูธรรมธรสมรักษ์ อนาลโย (หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย) เจ้าอาวาสวัดสุทธาวาส วิปัสนาจารย์ จ.พระนครศรีอยุธยา |
|
|
|
|
ฉลองพุทธชยันตี
2600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
Buddhajanti: The Celebration of 2600 Years of the Buddhas Enlithenment.
คำบูชาพระพุทธเมตตา
วันทามิ อิมัง พุทธะเมตตาปะฏิมัง อิมัสมิง คะยาสีเส ปูชาระเห สักการะภูเต เจติเย สุปะติฏฐิตังฯ
อิมินา ปะนะ วันทะมาเนนะ มา เม ทะลิททิยัง อะหุ พะหุชะนานัง ปิโย โหมิ มะนาโป สาธุ โน ภันเต อิเมหิ สักกาเรหิ อภิปูชะยามิ.
คำแปล
ข้าพเจ้าขอกราบไหว้ พระพุทธเมตตาปฏิมานี้ ซึ่งประดิษฐานตั้งมั่นดีแล้วในองค์พระเจดีย์ที่คยาสีสะประเทศนี้ อันเป็นสถานที่ ควรแก่เครื่องบูชาสักการะ
ด้วยการกราบไหว้นี้ ขอความเป็นผู้ขัดสนอย่าได้มีแก่ข้าพเจ้าเลย ขอให้ข้าพเจ้าเป็นที่รักเป็นที่พอใจ ของคนทั่วไป ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอบูชาโดยยิ่ง ด้วยเครื่องสักการะเหล่านี้ |
ต้นแบบพระพุทธเมตตา อธิษฐานขออนุญาติจัดสร้างเป็นเวลา 6 ปี
มีหลายวัดสร้างออกมาแล้วไม่สวยงาม นำแบบของเราไปจัดสร้างก็มี
มวลสารจากกิ่งพระศรีมหาโพธิ์บดเป็นผลอยู่ใต้ฐาน มีพระพุทธเมตตาองค์เล็กฝังไว้ใต้ฐานองค์ใหญ่
ซึ่งผ่านพิธีปลุกเสกและสาธยายพระไตรปิฏก จากชาวพุทธทั่วโลกที่ประเทศอินเดีย
บัดนี้มีให้บูชาแล้ว ที่วัดแดงประชาราษฏร์ที่เดียว
|
สำหรับบ้านที่มีพื่นทีขนาดเล็ก |
|
รูปปั้นต้นแบบ พระพุทธเมตตา หน้าตัก 2 นิ้ว |
|
(การสร้างวัตถุมงคลต้องมีต้นแบบ)
วัตถุมงคลที่สร้างออกมาจึงจะศักดิ์สิทธิ์ และเชื่อถือได้
ตำนานพระพุทธเมตตา
ภายในพระวิหารพระเจดีย์พุทธคยา มีพระพุทธปฏิมากรที่สร้างด้วยหินแกรนิตสีดา ในสมัยปาละ ปางมารวิชัย มีอายุกว่า ๑,๔๐๐ ปีเศษ ๆ ทั้งลักษณะและขนาดพอ ๆ กับพระพุทธรูปปางภูมิสัมผัสที่มถากัวร์วิหาร นครกุสินารา ปิดทองเหลืองอร่าม มีเครื่องตั้งบูชาตรงหน้าพระพุทธรูปที่ชาวไทยเรียกกันว่า องค์พ่อพระพุทธเมตตา นั้น มีหินทรงกลมที่มองเห็นเฉพาะฐาน เจ้าหน้าที่ทำไม้เป็นสี่เหลื่ยมมาครอบไว้ ฯ
มีการเล่าประวัติพระพุทธรูปนี้ไว้ในบันทึกของหลวงจีนเสวียนจ้าง (พระถังซัมจั๋ง) ว่าคราวเมื่อศศางกากษัตริย์จากเบงกอล ได้เสด็จเข้าไปในพระวิหารมหาโพธิ์ ได้พบพระพุทธปฏิมากรตั้งไว้บูชาองค์หนึ่ง ทีแรกที่ได้เห็นก็คิดจะทำลายด้วยมือของตัวเอง แต่เมื่อทรงเห็นพระพักตร์ของพระพุทธปฏิมากรอันเปี่ยมด้วยพระเมตตา ก็ประหารไม่ลง จึงเสด็จกลับนคร ฯ ในระหว่างทางนั้นได้ทรงดำริว่า ถ้าขืนยังปล่อยให้พระพุทธรูปองค์นี้ตั้งอยู่ในพระวิหารต่อไป พุทธศาสนิกชนทั้งหลายก็คงจะฟื้นฟูสถานที่นี้ขึ้น มาอีกได้เป็นแน่แท้ จึงรับสั่งให้นายทหารผู้หนึ่งไปทำลายพระพุทธรูปองค์นั้นเสีย แล้วให้ประดิษฐานรูปพระมเหศวรขึ้นแทนที่
นายทหารผู้นั้นครั้นได้รับคำสั่งก็มุ่งหน้าสู่วิหารมหาโพธิ์ เมื่อมาถึงได้แลดูพระพักตร์ของพระพุทธรูปองค์นั้นก็ประหารไม่ลงอีก และรำพึงว่า ถ้าหากทำลายพระพุทธรูปนี้ เราคงจะต้องตกนรกหมกไหม้ไปหลายกัปป์หลายกัลป์เป็นแน่ ซ้ำยังจะไร้โอกาสที่จะได้มาเกิดมาพบกับพระศรีอริยเมตไตยอีกด้วย แต่ถ้าเราไม่ทำลาย พระราชาคงจะทรงกริ้วพร้อมรับสั่งทำลายชีวิตเราและครอบครัวเป็นแน่ ฯ นายทหารผู้นั้น คิดกลับไปกลับมาหลายตลบว่า จะปฏิบัติตามพระบัญชาดี หรือ ขัดพระบัญชาดี
ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าจะไม่ทำลายพระพุทธรูป แต่จะต้องซ่อนเสียให้พ้นจากสายตาประชาชน จึงได้ไปตามชาวพุทธผู้มีศรัทธาทั้งหลายมาประชุมปรึกษากันแล้วก็พากันลงมือสร้างกำแพงขึ้นหน้าพระพุทธรูป กั้นไว้ไม่ให้คนภายนอกรู้ว่าข้างในพระวิหารนี้มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็เอารูปพระมเหศวรตั้งไว้หน้ากำแพง และกลับไปกราบทูลศศางกากษัตริย์ให้ทรงทราบ ฯ
ศศางกากษัตริย์กลับได้รับทราบแทนที่จะทรงยินดีกลับทรงหวาดหวั่น หวาดกลัว ว้าวุ่นพระทัย ด้วยเกรงว่า เหตุร้ายจักเกิดขึ้นกับตนเป็นแน่แท้ จึงทรงประชวรนับแต่นั้นมาโดยมีอาการเจ็บปวดทั่วทั้งพระวรกาย ในไม่ช้าชิ้นเนื้อเริ่มหลุดออกจากพระวรกายของพระองค์เป็นชิ้น ในที่สุดพระองค์ก็สิ้นพระชนม์ด้วยความทรมาน ฯ เมื่อศศางกากษัตริย์สิ้นพระชนม์แล้ว นายทหารผู้รับพระบัญชาให้ไปทำลายพระพุทธรูปพระองค์นั้นก็ได้กลับไปยังแดนพุทธคยา ณ มหาวิหารพุทธคยา และรีบทำลายกำแพงที่สร้างกั้นหน้าพระพุทธรูปนั้นออก เกิดความประหลาดใจยิ่งนักที่ ตะเกียงน้ำมันที่ตั้งจุดบูชานั้นยังลุกโพลงอยู่เหมือนเดิม |