ReadyPlanet.com
dot dot
dot
เทียนเต็ก ซินแสปฏิบัติธรรมแดนพุทธภูมิครั้งที่ 7 เพื่อเป็นพุทธบูชา 25พ.ย.-4ธ.ค.55


ปฏิบัติธรรมแดนพุทธภูมิเพือถวายเป็นพุทธบูชา
ครั้งที่ 7

25 พ.ย. - 4 ธ.ค. 55

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
 
 
 
 

ปีนี้ประเทศพม่าเป็นเจ้าภาพในการจัดดอกไม้

สวยงามตามแบบพม่า

 

 

 

แกะสลักผลไม้เป็นดอกไม้

สวยงามไปอีกแบบ

ชาวพุทธทิเบธกำลังสาธยายพระไตรปิฏก

พระทิเบตกำลังสาธยายประไตรปิฏก

เจ้าคุณวีระยุทธ
ประธารพระธรรมทูตสายต่างประเทศ

เยี่ยมสถานพยาบาล

 


สถานที่ตรงนี้เป็นสถานที่จำลอง
อชปาลนิโครธ
ช่วงสัปดาห์ที่ 5 หลังจากพระพุทธเจ้าตรัสรู้หม่ๆ


พระพุทธรูปหน้าวิหารพระพุทธเมตตา  (ด้านซ้าย)


พระพุทธรูปหน้าวิหารพระพุทธเมตตา  (ด้านขวา)


รูปปั้นนางวิสาขา มหาอุบาสิกา
อยู่ที่วัดป่าพุทธคยา

คาถาบูชานางวิสาขา มหาอุบาสิกา

นางวิสาขา มหาอุบาสิกา

งานมหามงคล 

ปฏิบัติธรรมแดนพุทธภูมิครั้งที่7

 
ฉลองพุทธชยันตี  2600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
Buddhajanti: The Celebration of 2600 Years of the Buddha’s Enlithenment.)

 

เป็นเทศกาลที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา
เกี่ยวเนื่องกับวันวิสาขบูชา

 

 


ถือว่าเป็นวันครบรอบวันเกิดของพุทธศาสนา
หรือเป็นวันครบรอบแห่งชัยชนะของพระพุทธเจ้าก็ได้

 

เพื่อมุ่งถวายเป็นพุทธบูชา
แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า



จะมีชาวพุทธทั่วโลกพากันมาปฎิบัติธรรม 
ตามรอยพระบรมศาสดา  สัมมาสัมพุทธเจ้า

 


ช่วงกลางวันจะมีชาวพุทธจากทั่วทุกมุมโลก
หลั่งไหลกันมาอย่างมากมาย

 

ส่วนช่วงกลางคืนจะมีแต่ชาวไทย
ที่ตั้งใจมาปฎิบัติธรรม
ปฎิบัติบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

การปฏิบัติธรรมมีทั้งการนั่งสมาธิ
เจริญภาวนา

การเดินจงกลมรอบวิหาร รอบต้นพระศรีมหาโพธิ์ด้วย
อาตมาเรียนแบบพระทิเบต

คือช่วงที่กำลังเดินจงกลม
จะโทรศัพท์กลับมาที่เมืองไทย

โทรมาหาพี่น้อง  เพื่อนฝูง  ตลอดจนคนที่เคารพนับถือ
คนที่มีบุญคุณ  คนทีมีพระคุณ
ให้ร่วมกันอนุโมทนาบุญด้วย จะได้อานิสงค์

ก็ปรากฏว่าได้ผลดี  บางตนกำลังเจ็บไข้ได้ป่วย
พอโทรกลับมาขอให้อนุโมทนา
ก็พลอยยินดีด้วย

ช่วงที่โยมแม่ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ.
ได้โทรมาบอกว่ากำลังปฏิบัติธรรม
และเดินจงกลมให้แม่อยู่

ขอให้โยมแม่ร่วมอนุโมทนาด้วย
แม่ก็ดีใจ  มีกำลังใจเพิ่มขึ้น

แม่ยังบอกว่าเดินให้กับเพื่อนร่วมห้องของแม่ด้วยนะ
ก็เลยบอกแม่ว่ายินดีและเต็มใจ
ขอให้ทุกมีกำลังใจต่อสู้กับความเจ็บป่วย
เรื่องอื่นไม่ต้องกังวล

สักครู่แม่บอกว่าเพื่อนของแม่หายเจ็บหายป่วยแล้ว
แต่แม่จะขอร้องพระชัยสักอย่างหนึ่ง
พระชัยจะให้แม่ได้หรือเปล่า

บอกไปว่าแม่มีอะไรจะขอร้องบอกมาได้ไม่มีปัญหา
แม่บอกว่าตึกนี้ทั้งตึก (ตึกว่องวานิช)
ป่วยเป็นมะเร็งเหมือนกับแม่
พระชัยช่วยเดินให้กับเขาหน่อย

อาตมาบอกว่าได้จะเดินให้ทุกคนคือเดินให้วันละ 9 รอบ
1 รอบประมาณ 250 ก้าว

คนเดินก็ดีใจ  และพลอยมีกำลังใจในการเดิน
คนป่วยก็ดีใจที่ได้ร่วมอนุโมทนา

พลอยมีกำลังใจในการต่อสู้กับความเจ็บไข้ได้ป่วย

ปีนี้ตั้งใจว่าจะเดินจงกลมให้มากกว่าปีที่ผ่านมาเป็นสองเท่า
ขอให้ทุกคนร่วมอนุโมทนาบุญด้วย
โดยจะอธิษฐานให้กับทุกๆคนที่ร่วมกันอนุโมทนา

พระธงชัย  ธมฺมกาโม
7 พ.ย. 55


 

แต่ต้องซื้อตั๋ว (ใบเพอร์มิส)
เพื่อที่จะอยู่ค้างแรมปฎิบัติบูชาตลอดคืนได้

 

โดยเสียค่าตั่ว ประมาณ 100 รูปี
ต่อการอยู่ค้างแรมปฎิบัติธรรมหนึ่งคืนต่อ1คน
(มีเจ้าหน้าที่หลายคน  เดินตรวจตรา  ดูแลความปลอดภัยตลอดคืน)



 

 

อาตมาก็จะไปปฏิบัติธรรมที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
เป็นครั้งที่7ช่วงวันที่
25 พ.ย.- 4 ธ.ค. 2555
ประมาณ 9 ราตรี

 

 

คงจะมีชาวพุทธจากทั่วโลก
หลั่งไหลกันมาร่วมฉลองงานนี้เป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน

 


ถ้าท่านใดคิดจะไปปฏิบัติธรรมที่พุทธคยา
ต้องรีบจองตั๋วล่วงหน้าได้แล้ว
ตั้งแต่บัดนี้



ถ้าขืนชักช้าอาจจะต้องรอไปจนถึงปีหน้า
แต่สำหรับอาตมาได้จองตั๋วเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


 
 

ขอแจ้งมายังสหธรรมมิกที่ต้องการจะเดินทางไปปฏิบัติธรรม
ณ.พุทธคยา  สถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้

 

 

 

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า
คงจะได้พบกับนักปฏิบัติธรรมที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์

ในช่วงวันและเวลาดังกล่าว

 

 

ชาวธิเบตจะมาต่อในช่วงเช้าตรู่

ห้องน้ำสาธารณะ


แจ้งมาให้ทราบวันที่ 5 กรกฏาคม 2555

พระธงชัย  ธมฺมกาโม

 

คาถานมัสการพระศรีมหาโพธิ์ตรัสรู้

          โพธิ ตัสสะ ภะคะวะโต          อัสสัตโถติ  ปะวุจจะติ

โหติ โย โคตะโม พุทโธ                 สะระณัง สัพพะปาณีนัง

ฐะปะยิตวานะ ธัมโมกกัง                 ปัจฉิมะ ชะนะโพธะนัง.

          โส รุกโข โพธิคะยายัง          ฐิโต พิหาระคามะเก

มหาโพธิพุทธะคะยานาเม                ยัตถะ ทัยยัสสะ สันตะโก

อาวาโส ทัยยะภิกขูนัง                    สัลเลขะ วุตติ โยคินัง

          วันทิเต โพธิรุกขัมหิ             สัมพุทโธ ปุนะ วันทิโต

สัทธัมโม วันทิโต เยวะ                             สุสังโฆ โหติ วันทิโต

วันทะนาชะนิตัง ปุญญัง                  อิติยัง ระตะนัตตะเย.

          อันตะรายา วิสัสสันตุ            โหตุ โสตถี จะ เตชะสา

โลเก รัฎฐัง สุขัง เสติ                     นิมมะลัง สัพพะสาสะนัง

ทีฆายุกา ปะชา สัพเพ                    อะนีฆา นิรุปัททะวาติ

 

คำแปล

          ต้นพระศรีมหาโพธิ์  ซึ่งเป็นที่ตรัสรู้ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าโคดมพุทธเจ้า  ผู้เป็นที่ระลึกถึงของสรรพสัตว์  เพราะทรงประดิษฐานพระธรรมไว้ให้ชนภายหลังได้รู้  ต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้นผู้คนขนานนามว่า อัสสัตถพฤกษ์

          ต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น  ตั้งอยู่ใกล้วัดไทยพุทธคยามหาวิหารซึ่งเป็นวัดไทยของชาวไทย  เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมเพื่อขัดเกลากิเลสของพระสงฆ์ไทยผู้ประกอบความเพียร

          เมื่อเราทั้งหลายกราบไหว้ต้นพระศรีมหาโพธิ์  ชื่อว่าได้กราบไหว้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  พระสัทธรรมเจ้า  พระสงฆ์เจ้าผู้ปฏิบัติดี  บุญใดอันเกิดแล้วจากการกราบไหว้  พระรัตนตรัยด้วยประการฉะนี้ขอเดชแห่งบุญนั้น  บันดาลให้อันตรายทั้งหลายจงพินาศไป  ด้วยสวัสดีจงบังเกิดมี  ทุกประเทศในโลกนี้อยู่เป็นสุข  ทุกศาสนาในโลกนี้จงปราศจากมลทิน  ประชากรทุกหมู่เหล่า  จงมีอายุยืนยาว  ไม่มีทุกข์  ปราศจากอุปัทวะทุกประการฯ

 

 


ในช่วงเวลากลางคืน
จะมีเฉพาะคนไทยเป็นส่วนใหญ่

เริ่มเตรียมความพร้อม
ได้แล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

พบกันได้ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ขอแจ้งให้ทราบไว้ณ.โอกาสนี้ด้วยความ
ปรารถนาดี.


 

 

อย่าลืมนำยาหม่องตราลิงถือลูกท้อติดตัวไปด้วย
เพราะแขกที่นี่ชอบลิง (ลิงเป็นทหารเอกของพระราม)


 

ขอแสดงความยินดีมากับทุกท่านล่วงหน้า
และขออนุโมทนาสาธุ
กับทุกๆท่าน

 


ช่วงเวลากลางวันคนจะแน่น  พุทธสถาน
เพราะปีนี้เป็นปีที่มีการฉลองครบรอบ
2600 ปี

 


ของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า


แห่งการตรัสรู้

 


 

หนังสือคู่มือสำหรับเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่พุทธคยา 
ประเทศอินเดีย
ดาวโหลดฟรี. ที่ www.tiantek.com

เป็น อีบุค EBOOKS

 

เนื่องจากมีผู้ที่ได้อ่านหนังสือ
"ธุดงค์อินเดีย" 
หลายต่อหลายท่าน  เกิดความรู้สึกว่า
การได้ไปปฎิบัติธรรมที่พุทธคยา  ไม่ยากอย่างที่คิด
 
ได้โทรติดต่อสอบถามไปที่บริษัททัวร์ 
ที่มีชื่ออยู่ในหนังสือ 
เนื่องด้วยอาตมาและพระศิริเดช 

ไม่ได้ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ในหนังสือ 
เพราะคิดว่ารายละเอียดที่ให้ไว้ในหนังสือ 
มีเพียงพอสำหรับการไปปฎิบัติธรรมที่พุทธคยาแล้ว 

แต่ปรากฎว่า  รายละเอียดที่ให้ไว้บางอย่าง 
มีปัญหาในทางปฎิบัติ 
เช่นเบอร์โทรศัพท์ของบุคคลบางท่าน 

หรือพระอาจารย์บางรูป  เปลี่ยนโทรศัพท์ 
หรือทำโทรศัพท์หาย  หรือกลับมาเมืองไทยแล้ว 
หรือไม่ได้เปิดโทรศัพท์ไว้ 

และบางทีก็มีปัญหา
เวลาที่เมืองไทยกับอินเดียไม่ตรงกัน 

หลายต่อหลายเรื่อง 
แต่ส่วนมากจะมีปัญหาเกี่ยวกับที่พักเสียเป็นส่วนใหญ่

จึงต้องแจ้งมาณ.ที่นี้ว่า 
ปีนี้อาจจะมีปัญหามากจริง 
เพราะปีนี้เป็นปีที่ฉลองพุทธชยันตี2600ปี 

มีชาวพุทธที่ตั้งใจที่จะไปปฎิบัติธรรม
ที่พุทธคยาเป็นจำนวนมาก มากกว่าทุกครั้ง
จึงอาจจะมีปัญหาบ้าง  แต่อย่าเพิ่งท้อ

ผู้เขียนขอบอกตามตรงว่า 
แม้แต่ตัวผู้เขียนเองก็ยังไม่มั่นใจว่า 
ไปพุทธคยาคราวนี้จะได้ที่พักหรือไม่ 

ปีที่แล้วกว่าจะได้ไปที่พุทธคยา
มีปัญหาและอุปสรรค์มากมาย

ครั้งแรกมีปัญหาท่านอาจารย์ที่วัดป่าพุทธคยา
โทรมาบอกแคนเซิล  (ยกเลิกที่พัก)

เพราะมีผู้ใหญ่จากเมืองไทยต้องไปทอดกฐิน
ที่วัดป่า  ระยะเวลาตรงกันพอดี
ไม่สามารถจะให้ที่พักได้

โทรไปสอบถามวัดไทย
ที่อยู่พุทธคยา

เป็นวัดที่ญาติโยมที่มีจิตศรัทธา
ฝากเงินไปทำบุญทุกครั้งที่ไปปฎิบัติธรรม
แต่ปรากฎว่า

ห้องพักไม่เคยว่างเพราะต้องกันไว้ให้กับ
คณะทัวร์ต่างชาติ

วัดไทยที่อยู่ต่างประเทศจะให้เหมือนกับ
วัดไทยในเมืองไทยไม่ได้

ถ้าเคยดูโทรทัศน์บ่อยก็จะจำสโลแกน
ที่เด็กๆพากันร้องว่า

"น้ำดิบมีราคา  น้ำประปามีต้นทุน"

(ไปอินเดียมีราคา  อยู่พุทธคยามีต้นทุน)

พระ-แม่ชีและโยมที่อยู่ตามวัด
มีค่าใช้จ่าย

อย่างน้อยต้องเสียค่าวีซ่าทุก3เดือนหรือ6เดือน
ต้องกลับมาเมืองไทยเพื่อต่อวีซ่า

และอาจจะมีอย่างอื่นอีก

แต่เมื่อตั้งใจไปแล้ว 
ไปตายเอาดาบหน้าก็แล้วกัน

คิดว่าจะไปปฎิบัติธรรมช่วงนี้อย่างแน่นอน
เพราะว่ามีความตั้งใจไว้แล้ว
เมื่อไปถึงพุทธคยาแล้วคงจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับที่พักได้

แต่ปรากฎว่า

คราวนี้มีปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพและจังหวัดใกล้เคียง
ไม่สามารถที่จะเดินทางไปปฎิบัติธรรมได้
เพราะมีความเป็นห่วงทางนี้

จึงต้องเลื่อนการเดินทางออกไป
คือจากปลายปี
เปลี่ยนเป็นต้นปีจึงจะไป

เมื่อถึงวันเดินทาง
และ
ได้ขึ้นเครื่องนึกว่าสบายใจได้แล้วคราวนี้

ไม่มีอุปสรรค์แล้ว
ที่ไหนได้

พอไปถึงสนามบินนักบินประกาศว่า
ไม่สามารถที่จะนำเครื่องบินลงได้  เพราะไฟไหม้ที่สนามบิน
เนื่องจากชาวบ้านเผาป่า

พอเครื่องบินลงต้องไปผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง
ก็มีปัญหาอีก  เพราะนายด่านหาว่า
นำเนื้อสัตว์กระป๋องมาด้วย

โยมที่ไม่เคยมาก็เสียความรู้สึก
จึงตัดรำคาญโดยจ่ายเงินให้ไปหลายพันบาท

แต่ในที่สุดเมื่อถึงพุทธคยา
ปัญหาทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น  ถือว่า
มีมารผจญ

ขากลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ
กัปตันแจ้งให้ทราบว่า
เครื่องบินยังลงไม่ได้  เพราะการจราจรคับคั่ง

ต้องบินวนอยู่นานจึงจะลงได้
กลับถึงบ้านแล้วนึกว่า
จะหมดปัญหา

มารไม่มีบารมีไม่เกิด
ปัญหาแค่นี้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา

ปีนี้ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร
แต่ที่ผ่านมาถือว่าคุ้มค่า  ไปไม่เสียเที่ยว

ตถตา
มันเป็นเช่นนั้นเอง

 

 

 

 

วัดป่าพุทธคยา

ประเทศอินเดีย

วัดป่าพุทธคยา 


บริเวณนี้คือบริเวณหน้าพุทธสถาน
ทางซ้ายมือของอาตมา
แต่เป็นขวามือของผู้อ่าน


คือทางไปวัดป่าพุทธคยา
ถือว่าเป็นวัดที่อยู่ใกล้กับพุทธสถาน 
(สถานที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้  ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์) 

 

คืออยู่ติดกับบริเวณพุทธสถานพอดี 
เดินออกจากพุทธสถาน  เลี้ยวซ้ายไปประมาณ 
ไม่เกิน 100 เมตรก็จะถึงวัดป่าพุทธคยาพอดี  การเดินทางสะดวก  ปลอดภัย  ใช้เวลาไม่นาน

 

 

พระพุทธเจ้า  ทรงเครื่อง

พระพุทธรูปประจำวัดป่าพุทธคยา

พระสังกัจจาย

หลวงพ่อดำ  จำลอง
ที่วัดป่าพุทธคยา

พยานาค  ศิลปล้านนา  อ่อนช้อย  สวยงาม  โดยช่างฝีมือจากล้านนา
มาควบคุม  การก่อสร้าง

อาตมา  ได้มาพักที่วัดป่าพุทธคยาครั้งแรก 
เห็นคนงานนำดินถมที่มาเทที่บริเวณหน้าที่พัก 
เพื่อก่อสร้างอาคารที่พัก  ครั้งแรกนึกแปลกใจ  ที่ได้เห็นทั้งนก  กระรอก  กระแต  ผีเสื้อ  และแมลงต่างๆ  มาที่กองดินที่เทไว้

ท่านทั้งหลายอย่านึกแปลกใจ
สัตว์ต่างๆมาที่กองดิน  เพื่อจะกินสารอาหาร
หรืออาจจะกินตัวแมลงที่เล็กกว่า 
สามารถที่จะกินได้

สัตว์กินได้

นึกย้อนกลับมาที่เมืองไทย 
ดินถมที่ของเราส่วนมากจะแข็งมาก 
ไม่ร่วนซุยเหมือนกับดินของที่นี่


คงจะไม่มีสารอาหารอะไรเหลือให้สัตว์และแมลง
ได้กัดกินเป็นอาหารได้

อย่าว่าแต่จะปลูกต้นไม้เลย
กองทิ้งไว้  นกกา  ยังคงต้องเดินหนี 

ไม่กล้าเข้าไกล้ด้วยซ้ำไป
สงสัยว่าจะกลัวตาย

วิ่งหนีให้ไกลแสนไกล
เพราะสัตว์บ้านเรากลัวสารเคมี
ที่พวกเราใส่ปุ๋ยให้กับตันไม้

ทำให้พื้นดินแข็ง  ปลูกอะไรก็ไม่ค่อยได้ผล
ต้องเติมปุ๋ยเรื่อยๆ

ทำให้หายแปลกใจที่เห็นชาวบ้าน
ที่นี่นำผักและผลไม้


 

มาวางขาย
ที่ตลาด  และบริเวณหน้าพุทธสถาน
ชาวไทยเห็นแล้วอดใจที่จะอุดหนุนไม่ได้

เพราะที่นี่ดินอุดมสมบูรณ์นั่นเอง

ดร.วรุตม์  สีบุญเรือง
นมัสการพระอาจารย์  มหาน้อย (กิตติพันธ์)
ผู้ช่วยเจ้าอาวาส  วัดป่าพุทธคยา 

 

มาคราวนี้มีโยมติดตามมาปฎิบัติธรรมด้วย7ท่าน

ร่วมใจกันทำบุญ  สร้างเตียงนอน  ถวายวัดป่าด้วย

ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก

กิจวัตรพระวัดป่าพุทธคยา

ทุกครั้งที่อาตมาและพระศิริเดช 
ซึ่งเป็นพระสหธรรมมิก

ได้มาปฎิบัติธรรมที่พุทธคยา  จะมีพระผู้ใหญ่
ให้ความอุปถัมภ์เสมอ

คือพระอาจารย์  มหาน้อย (กิตติพันธ์)
ผู้ช่วยเจ้าอาวาส  วัดป่าพุทธคยา 

เมตตาอนุเคาะห์  ให้กุฎิที่พักอาศัย  มาโดยตลอด 
ขออนุโมทนา  เป็นอย่างสูง 

มาณะโอกาสนี้

พระวัดป่าพุทธคยารับบาตรตอนเช้า
จากญาติโยมที่มาพำนักที่วัดป่า

พระวัดป่าบิณฑบาตรอาหารเช้าบริเวณภายในวัด

พระวัดป่าเดินบิณฑบาตรรับอาหาร
จากญาติโยมที่มาพัก

แม่ชี  และอุบาสก  อุบาสิกา 
ที่มาแสวงบุญ  ร่วมกันใส่บาตรในยามเช้า

พระวัดป่าเริ่มพิจารณาอาหาร

บริเวณหอฉัน

ภายในโรงครัวของวัดป่าพุทธคยา

บริเวณห้องครัววัดป่า  สะอาดตา

ห้องครัววัดป่า  สะอาด  กว้างขวาง  ทันสมัย

 

นางวิสาขา  มหาอุบาสิกา

เกิดในตระกูลเศรษฐีในเมืองภัททิยะ แคว้นอังคะ บิดาชื่อว่าธนญชัย มารดาสุมนาเทวี และปู่ชื่อเมณฑกเศรษฐี ขณะที่เธอมีอยู่ในวัย ๗ ขวบ เป็นที่รักดุจแก้วตาดวงใจของเมณฑกะผู้เป็นปู่ยิ่งนัก

๗ ขวบบรรลุโสดาบัน 

  เมื่อเมณฑกเศรษฐีได้ทราบข่าวว่า พระบรมศาสดาพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์จำนวนมากกำลังเสด็จมาสู่เมืองภัททิยะ ท่านเมณฑกเศรษฐี จึงได้มอบหมายให้เด็กหญิงวิสาขาพร้อมด้วยบริวาร ออกไปทำการรับเสด็จที่นอกเมือง ขณะที่พระพุทธองค์ประทับพักผ่อนพระอริยบทอยู่นั้น เด็กหญิงวิสาขาพร้อมด้วยบริวาร เข้าไปเฝ้ากราบถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่อันสมควรแก่ตน พระพุทธองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนาให้พวกเธอฟัง เมื่อจบลงก็ได้บรรลุเป็นพระโสดาบันด้วยกันทั้งหมด

  ส่วนเมณฑกเศรษฐี เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จมาถึงแล้วจึงรีบเข้าไปเฝ้าได้ฟังพระธรรมเทศนาก็ได้บรรลุเป็นพระโสดาบันเช่นกัน แล้วกราบทูลอาราธนาพระบรมศาสดาพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ที่ติดตามเสด็จทั้งหมดเข้าไปรับอาหารบิณฑบาต ณ ที่บ้านของตนตลอดเวลาระยะ ๑๕ วันที่ประทับอยู่ที่ภัททิยนครนั้น

  สมัยนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลแห่งเมืองสาวัตถี และพระเจ้าพิมพิสารแห่งเมืองราชคฤห์ มีความเกี่ยวข้องกันโดยต่างก็ได้ภคิณี ( น้องสาว ) ของกันและกันมาเป็นมเหสี แต่เนื่องจากเมืองสาวัตถีของพระเจ้าปเสนทิโกศลนั้น ไม่มีเศรษฐีตระกูลใหญ่ ๆ ผู้มีทรัพย์สมบัติมากเลย และได้ทราบว่าในเมืองราชคฤห์ของพระเจ้าพิมพิสารนั้น มีเศรษฐีผู้มีทรัพย์สมบัติขนาดนับไม่ถ้วนอยู่ถึง ๕ คน

  ดังนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงเสด็จมายังเมืองราชคฤห์ เข้าเฝ้าพระเจ้าพิมพิสารแล้วแจ้งความประสงค์ที่มาในครั้งนี้ ก็เพื่อของพระราชทานตระกูลเศรษฐีในเมืองราชคฤห์นี้ไปอยู่ในเมืองสาวัตถีสักหนึ่งตระกูล

  พระเจ้าพิมพิสารได้สดับแล้วตรัสตอบว่า “ การโยกย้ายตระกูลใหญ่ ๆ เพียงหนึ่งตระกูลก็เหมือนกับแผ่นดินทรุด” แต่เพื่อรักษาสัมพันธไมตรีต่อกันไว้ หลังจากที่ได้ปรึกษากับอำมาตย์ทั้งหลายแล้ว เห็นฟ้องต้องกันว่าสมควรยกตระกูลธนญชัยเศรษฐี ให้ไปอยู่เมืองสาวัตถีกับพระเจ้าปเสนทิโกศล

  ธนญชัยเศรษฐีได้ขนย้ายทรัพย์สมบัติพร้อมทั้งบริวารและสัตว์เลี้ยงทั้งหลายเดินทางสู่พระนครสาวัตถีพร้อมกับพระเจ้าปเสนทิโกศล และเมื่อเดินทางเข้าเขตแคว้นของพระเจ้าปเสนทิโกศลแล้ว ขณะที่พักค้างแรมระหว่างทางก่อนเข้าเมือง ธนญชัยเศรษฐีเห็นว่าภูมิประเทศบริเวณที่พักนั้นเป็นชัยภูมิเหมาะสมดี

  อีกทั้งตนเองก็มีบริวารติดตามมาเป็นจำนวนมาก ถ้าไปตั้งบ้านเรือนภายในเมืองก็จะคับแคบ จึงขออนุญาตพระเจ้าปเสนทิโกศลก่อตั้งบ้านเรือน ณ ที่นั้น และได้ชื่อเมืองใหม่ว่า “ สาเกต” ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองสาวัตถี ๗ โยชน์

หญิงงามเบญจกัลยาณี 

    ในเมืองสาวัตถีนั้น มีเศรษฐีตระกูลหนึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า มิคารเศรษฐี มีบุตรชายชื่อว่า ปุณณวัฒนกุมาร เมื่อเจริญวัยสมควรที่จะมีภรรยาได้แล้ว บิดามารดาขอให้เขาแต่งงานเพื่อสืบทอดวงศ์ตระกูล แต่เขาเองไม่มีความประสงค์จะแต่งงาน เมื่อบิดามารดารบเร้ามากขึ้น เขาจึงหาอุบายเลี่ยงโดยบอกบิดารมารดาว่า ถ้าได้หญิงที่มีความงามครบทั้ง ๕ อย่าง ซึ่งเรียกว่า เบญจกัลยาณี แล้วจึงยอมแต่งงาน

  เบญจกัลยาณี . ความงามของสตรี ๕ อย่างคือ

   ๑. เกสกลฺยาณํ ผมงาม คือหญิงที่มีผมยาวถึงสะเอวแล้วปลายผมงอนขั้น

  ๒. มงฺสกลฺยาณํ เนื้องาม คือหญิงที่มีริมฝีปากแดงดุจผลตำลึงสุกและเรียบชิดสนิทกันดี 

  ๓. อฎฺฐกลฺยาณํ กระดูกงาม คือหญิงที่มีฟันสีขาวประดุจสังข์ และเรียบเสมอกัน

  ๔. ฉวิกลํยาณํ ผิวงาม คือหญิงที่มีผิวงามละเอียด ถ้าดำก็ดำดังดอกบัวเขียว ถ้าขาวก็ขาวดังดอกกรรณีกา

  ๕. วยกลฺยาณํ วัยงาม คือหญิงที่แม้จะคลอดบุตรถึง ๑๐ ครั้ง ก็ยังคงสภาพร่างกายสาวสวยดุจคลอดครั้งเดียว

  บิดามารดาเมื่อได้ฟังแล้วจึงให้เชิญพราหมณ์ผู้มีความเชี่ยวชาญในด้าน อิตถีลักษณะมาถามว่า หญิงผู้มีความงามดังกล่าวนี้มีหรือไม่ เมื่อพวกพราหมณ์ตอบว่ามี จึงส่งพราหมณ์เหล่านั้นออกเที่ยวแสวงหาตามเมืองต่าง ๆ พร้อมทั้งมอบพวงมาลัยและเครื่องทองหมั้นไปด้วย

ชน ๔ พวกเมื่อวิ่งจะดูไม่งาม 

  พวกพราหมณ์ที่เที่ยวแสวงหาไปตามเมืองต่าง ๆ ทั้งเมืองเล็กเมืองใหญ่จนมาถึงเมืองสาเกต ได้พบนางวิสาขามีลักษณะภายนอกถูกต้องตามตำราอิตถีลักษณะครบทุกประการ ขณะที่นางพร้อมทั้งหญิงบริวารออกมาเที่ยวเล่นน้ำกันที่ท่าน้ำ ขณะนั้นฝนตกลงมาอย่างหนัก หญิงบริวารทั้งหลายพากันวิ่งหลบหนีฝนเข้าไปในศาลา แต่นางวิสาขายังคนเดินไปด้วยอาการปกติ ทำให้พวกพราหมณ์ทั้งหลายรู้สึกแปลกใจประกอบกับต้องการจะเห็นลักษณะฟันของนางด้วยจึงถามนางว่า “ ทำไม เธอจึงไม่วิ่งหลบหนีฝนเหมือนกับหญิงอื่น ๆ” นางวิสาขาตอบว่า ชน ๔ พวกเมื่อวิ่งจะดูไม่งาม ได้แก่..

   ๑. พระราชา ผู้ทรงประดับด้วยเครื่องอาภรณ์พร้อมสรรพ

  ๒. บรรพชิต ผู้ครองผ้ากาสาวพัสตร์

  ๓. สตรี ผู้ชื่อว่าเป็นหญิงทั้งหลาย ( นอกจากจะดูไม่งามแล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุจนเสียโฉม หรือพิการ จะทำให้เสื่อมเสียและหมดคุณ่า)

  ๔. ช้างมงคล ตัวประดับด้วยเครื่องอาภรณ์สำหรับช้าง

  พวกพราหมณ์ได้เห็นปัญญาอันชาญฉลาด และคุณสมบัติเบญกัลยาณีครบทุกประการแล้ว จึงขอให้นางพาไปที่บ้านเพื่อทำการสู่ขอต่อพ่อแม่ตามประเพณี เมื่อสอบถามถึงชาติตระกูลและทรัพย์สมบัติก็ทราบว่า มีเสมอกัน จึงสวมพวงมาลัยทองให้นางวิสาขาเป็นการหมั้นหมายและกำหนดวันวิวาหมงคล

  ธนญชัยเศรษฐี ได้สั่งให้ช่างทองทำเครื่องประดับชื่อ มหาลดาปสาธน์ เพื่อมอบให้แก่ลูกสาว ซึ่งเป็นเครื่องประดับชนิดพิเศษ เป็นชุดยาวติดต่อกันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ประกอบด้วยเครื่องเงินทองและรัตนอันมีค่าถึง ๙ โกฏิกหาปณะ ค่าแรงฝีมือช่างอีก ๑ แสน เป็นเครื่องประดับที่หญิงอื่น ๆ ไม่สามารถจะประดับได้เพราะมีน้ำหนักมาก นอกจากนี้ ธนญชับเศรษฐี ยังได้มอบทรัพย์สินเงินทองของให้ต่าง ๆ รวมทั้งข้าทาสบริวารและฝูงโคอีกจำนวนมากมานมหาศาล อีกทั้งส่งกุฏุมพีมีความชำนาญพิเศษด้านต่าง ๆ ไปเป็นที่ปรึกษาดูแลประจำตัวอีก ๘ นายด้วย

ธนญชัยเศรษฐีให้โอวาทลูกสาว  

 ก่อนที่นางวิสาขาจะไปสู่ตระกูลของสามี ธนญชัยเศรษฐีได้อบรมมารยาทสมบัติของตระกูลสตรีผู้ไปสู่ตระกูลของสามี โดยให้โอวาท ๑๐ ประการ เป็นแนวปฏบัติ คือ..

   โอวาทข้อที่ ๑ ไฟในอย่านำออก หมายความว่า อย่านำความไม่ดีของพ่อผัวแม่ผัวและสามีออกไปพูดให้คนภายนอกฟัง

  โอวาทข้อที่ ๒ ไฟนอกอย่านำเข้า หมายความว่า เมื่อคนภายนอกตำหนิพ่อผัวแม่ผัวและสามีอย่างไร อย่านำมาพูดให้คนในบ้านฟัง

  โอวาทข้อที่ ๓ ควรให้แก่คนที่ให้เท่านั้น หมายความว่า ควรให้แก่คนที่ยืมของไปใช้แล้วนำมาส่งคืน

  โอวาทข้อที่ ๔ ไม่ควรให้แก่คนที่ไม่ให้ หมายความว่า ไม่ควรให้แก่คนที่ยืมของไปใช้แล้วไม่นำมาส่งคืน

  โอวาทข้อที่ ๕ ควรให้ทั้งแก่คนคนที่ให้และไม่ให้ หมายความว่า เมื่อมีญาติมิตรผู้ยากจนขอความช่วยเหลือพึ่งพาอาศัย เมื่อให้ไปแล้วจะให้คืนหรือไม่ให้คืน ก็ควรให้

  โอวาทข้อที่ ๖ พึงนั่งให้เป็นสุข หมายความว่า ไม่นั่งในที่กีดขวางของพ่อผัว แม่ผัวและสามี

  โอวาทข้อที่ ๗ พึงบริโภคให้เป็นสุข หมายความว่า ควรจัดให้พ่อผัว แม่ผัวและสามีบริโภคแล้ว ตนจึงบริโภคภายหลัง

  โอวาทข้อที่ ๘ พึงบำเรอไฟ หมายความว่า ให้มีความสำนึกอยู่เสมอว่า พ่อผัว แม่ผัวและสามีเป็นเหมือนดวงไฟและพญานาคที่จะต้องบำรุงดูแล

  โอวาทข้อที่ ๑๐ พึงนอบน้อมเทวดาภายใน หมายความว่า ให้มีความสำนึกอยู่เสมอว่า พ่อผัว แม่ผัว และสามีเป็นเหมือนเทวดาที่จะต้องให้ความนอบน้อม

อานิสงส์ของการทำบุญแล้วแถม 



  ธนญชัยเศรษฐี ใช้เวลาถึง ๔ เดือนในการเตรียมทรัพย์สมบัติเพื่อมอบให้แก่นางวิสาขา สำหรับใช้สอยเมื่อไปอยู่ในตระกูลของสามี เฉพาะเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์เพียงอย่างเดียวก็ใช้เวลาทำถึง ๔ เดือนเช่นเดียวกัน เมื่อถึงกำหนดนางวิสาขาก็ได้ออกเดินทางไปยังตระกูลของสามี พร้อมด้วยข้าทาสบริวารทรัพย์สินเงินทองของใช้อเนกอนันต์ และโคกระบืออีกมากมายมหาศาล ที่บิดาจัดการมอบให้

 

  แม้กระนั้น โคกระบือของชาวบ้านที่อยู่ในคอกยังทำลายวิ่งออกตามขบวนของนางวิสาขาไปอีกจำนวนมาก ทั้งนี้ก็เพราะด้วยอานิสงส์แห่งการทำบุญถวายทานที่นางทำไว้ในอดีตชาติ คือ ในครั้งที่นางวิสาขาเกิดเป็นธิดาของพระเจ้ากิกิ ครั้งพระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ นางได้ถวายอาหารแก่พระภิกษุสามเณรเป็นประจำและทั้ง ๆ ที่พระภิกษุสามเณรกล่าวว่า “ พอแล้ว ๆ” นางก็ยังตรัสว่า “ พระเจ้าคุณเจ้าสิ่งนี้อร่อย สิ่งนี้น่าฉัน” แล้วก็ถวายเพิ่มอีก ด้วยอนิสงส์แห่งการถวายเพิ่มนี้บันดาลให้โคเหล่านั้นถึงแม้จะมีคนห้ามมีคอกกั้นอยู่ก็ยังกระโดดออกจากคอกวิ่งตามขบวนของนางวิสาขาไปอีกจำนวนมาก

นางวิสาขาตำหนิพ่อผัว 

  เมื่อนางวิสาขาเข้ามาสู่ตระกูลของสามีแล้ว เพราะความที่เป็นผู้ได้รับการอบรมสั่งสอนเป็นอย่างดีตั้งแต่วัยเด็ก และเป็นผู้มีสติปัญญาเฉลี่ยวฉลาด มีน้ำใจเจรจาไพเราะ ให้ความเคารพผู้ที่มีวัยสูงกว่าตน จึงเป็นที่รักใคร่และชอบใจของคนทั่วไป ยกเว้นมิคารเศรษฐีบิดาของสามี ซึ่งมีจิตศรัทธาฝักใฝ่ในนักบวชอเจลกชีเปลือย

  โดยให้ความเคารพนับถือว่าเป็นพระอรหันต์ และนิมนต์ให้มาบริโภคโภชนาหารที่บ้านของตนแล้ว สั่งให้คนไปตามนางวิสาขามาไหว้พระอรหันต์และให้มาช่วยจัดงานเลี้ยงอาหารแก่อเจลกชีเปลือยเหล่านั้นด้วย

  นางวิสาขา ผู้เป็นพระอริยสาวิกาชั้นโสดาบันพอได้ยินคำว่า อรหันต์ ก็รู้สึกปีติยินดีรีบมายังเรือนของมิคารเศรษฐี แต่พอได้เห็นอเจลกชีเปลือย ก็ตกใจจึงกล่าวว่า ” ผู้ไม่มีความละอาย เหล่านี้ จะเป็นพระอรหันต์ไม่ได้ ” พร้อมทั้งกล่าวติเตียนมิคารเศรษฐีแล้วกลับไปที่อยู่ของตน

  ต่อมาอีกวันหนึ่ง ขณะที่มิคารเศรษฐีกำลังบริโภคอาหารอยู่ โดยมีนางวิสาขาคอยปรนนิบัติอยู่ใกล้ ๆ ได้มีพระเถระเที่ยวบิณฑบาตผ่านมาหยุดยืนที่หน้าบ้านของมิคารเศรษฐี นางวิสาขาทราบดีว่าเศรษฐีแม้จะเห็นพระเถระแล้วก็ทำเป็นไม่เห็น นางจึงกล่าวกับพระเถระว่า “ นิมนต์พระคุณเจ้าไปข้างก่อนก่อนเถิดท่านเศรษฐีกำลังบริโภคของเก่าอยู่ ”

  เศรษฐี ได้ฟังดังนั้นแล้วจึงโกรธเป็นที่สุด หยุดบริโภคอาหารทันทีแล้วสั่งให้บริวารมาจับและขับไล่นางวิสาขาให้ออกจากบ้านไป แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาจับ นางวิสาขาขอชี้แจงแก่กุฏุมพี ๘ นายที่พ่อส่งมาช่วยดูแลนางก่อน และเมื่อมิคารเศรษฐีให้คนไปเชิญกุฏุมพีมาแล้วแจ้งโทษของนางวิสาขาให้ฟัง ซึ่งนางก็แก้ด้วยคำว่า “ ที่ดิฉันกล่าวอย่างนั้น หมายถึง มิคารเศรษฐีบิดาสามีบริโภคบุญเก่าอยู่ มิใช่บริโภคของบูดเน่าอย่างที่เข้าใจ” กุฎุมพีทั้ง ๘ จึงกล่าวกับเศรษฐีว่า “ เรื่องนี้นางวิสาขาไม่มีความผิด”

พ่อผัวยกย่องนางวิสาขาในฐานะมารดา 

  เมื่อมิคารเศรษฐี ฟังคำชี้แจงของลูกสะใภ้แล้วก็หายโกรธขัดเคือง และกล่าวขอโทษนาง พร้อมทั้งอนุญาตให้นางนิมนต์พระบรมศาสดาพร้อมภิกษุสงฆ์มารับอาหารบิษฑบาตในเรือนของตน ขณะที่นางวิสาขาจัดถวายภัตตาหารแด่พระบรมศาสดาและพระภิกษุสงฆ์อยู่นั้น ก็ได้ให้คนไปเชิญมิคารเศรษฐีมาร่วมถวายภัตตาหารด้วย 

  แต่เศรษฐีเมื่อมาแล้วไม่กล้าที่จะออกไปสู่ที่เฉพาะพระพักตร์พระศาสดา เพราะไม่มีศรัทธาเลื่อมใสจึงแอบนั่งอยู่หลังม่าน เมื่อเสร็จภัตกิจแล้ว พระบรมศาสดาทรงแสดงพระธรรมเทศนา ส่วนมิคารเศรษฐีแม้จะหลบอยู่หลัวม่านก็มีโอกาสได้ฟังธรรมด้วยจนจบ และก็ได้สำเร็จเป็นพระโสดาบันบุคคลในพุทธศาสนา เป็นสัมมาทิฏฐิกบุคคลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

  ทันใดนั้น มิคารเศรษฐีได้ออกมาจากหลังม่านแล้วตรงเข้าไปหานางวิสาขาใช้ปากดูดถันของลูกสะใภ้ และประกาศให้ได้ยินทั่วกัน ณ ที่นั้นว่า “ ตังแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอเธอจงเป็นมารดาของข้าพเจ้า” และตั้งแต่นั้นมานางวิสาขาก็ได้นามว่า “ มิคารมารดา” คนทั่วไปนิยมเรียกชื่อนางว่า “ วิสาขามิคารมารดา”

คุณสมบัติพิเศษประจำตัวนางวิสาขา 

  ในบรรดาอุบาสิกาทั้งหลาย นางวิสาขานับว่าเป็นผู้มีบุญสั่งสมมาตั้งแต่อดีตชาติมากเป็นพิเศษกว่าอุบาสิกาคนอื่น ๆ หลายประการ เช่น..

   ๑ . ลักษณะของผู้มีวัยงาม คือ แม้ว่านางจะมีอายุมาก มีลูกชาย-ลูกหญิง ถึง ๒๐ คน ลูกเหล่านั้นแต่งงานมีลูกอีกตั้งคนละ ๒๐ คน นางก็มีหลานนับได้ ๔๐๐ คน หลานเหล่านั้นแต่งงานมีลูกอีกคนละ ๒๐ คน นางวิสาขามีเหลนนับได้ ๘,๐๐๐ คน ดังนั้น คนจำนวน ๘,๔๒๐ คน มีต้นกำเนิดมาจากนางวิสาขา นางมีอายุยืน ได้เห็นหลานเหลนทุกคน แม้นางมีอายุถึง ๑๒๐ ปี แต่ขณะเมื่อนางนั่งอยู่ในกลุ่มของลูก หลาน เหลน นางจะมีลักษณะวัยใกล้เคียงกับคนเหล่านัน คนพวกอื่นไม่สามารถทราบได้ว่า นางวิสาขาคือคนไหน แต่สังเกตได้เมื่อเวลาจะลุกขึ้นยืน ธรรมดาคนหนุ่มสาวจะลุกขึ้นได้ในทันที แต่สำหรับคนแก่จะต้องใช้มือยันพื้นช่วยพยุงกาย และจะยกก้นขึ้นก่อน นั้นแหละจึงจะทราบว่า นางวิสาขาคือคนไหน

  ๒ . นางมีกำลังมาเท่ากับช้าง ๕ เชื่อกรวมกัน ครั้งหนึ่ง พระราชามีพระประสงค์จะทดลองกำลังของนาง จึงรับสั่งให้ปล่อยช้างพลายตัวที่กำลังมากเพื่อให้วิ่งชนนางวิสาขา นางเห็นช้างวิ่งตรงเข้ามา จึงคิดว่า “ ถ้าเราจับช้างนี้ด้วยมือข้างเดียวแล้วผลักไป ช้างนี้ก็จะเป็นอันตลายถึงชีวิต เราก็จะบาป ควรรักษาชีวิตช้างไว้จะดีกว่า ” นางจึงใช้นิ้วเพียงสองนิ้วจับช้างที่งวงแล้วเหวี่ยงไปปรากฏว่าช่างถึงกับล้มกลิ้ง แต่ก็ไม่เป็นอันตราย

  ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวนี้ ชนทั้งหลายเมื่อจัดงานมงคลในบ้านเรือนของตนจึงพากันเชิญนางวิสาขาให้ไปเป็นประธานในงาน มอบให้นางเป็นผู้นำในพิธีต่าง ๆ แม้แต่อาหารก็ให้นางทานก่อน เพื่อความเป็นสิริมงคล จนนางวิสาขาไม่มีเวลาปฏิบัติพระภิกษุที่มาฉันในบ้านของตน ต้องมอบให้ลูก ๆ หลาน ๆ ดำเนินการให้

วัดป่าพุทธคยา

 

นางวิสสาขาร้องไห้อาลัยหลาน 

  สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารบุพพาราม ซึ่งนางวิสาขาเป็นผู้สร้างถวาย ใกล้กรุงสาวัตถี ขณะนั้น หลานสาวชื่อว่าสุทัตตีผู้เป็นที่รักเป็นที่พอใจอย่างยิ่งได้ถึงแก่กรรมลง ทำให้นางเศร้าโศกเสียใจร้องไห้รำพันถึงหลานรัก เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าทั้ง ๆ ที่กำลังร้องไห้อยู่ด้วย พระพุทธองค์ตรัสถามเหตุแห่งความเศร้าโศก ทรงทราบโดยตลอดแล้ว จึงตรัสถามว่า..

   “ ดูก่อนวิสาขา ในพระนครสาวัตถีนี้ เธอต้องการบุตรหลานสักกี่คน ?”

  “ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ต้องการบุตรหลานในพระนครนี้ทั้งหมด พระเจ้าข้า” 

   “ ดูก่อนวิสาขา ก็ในพระนครสาวัตถีนี้ มีคนตายวันละเท่าไร ?”

  “ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในพระนครสาวัตถีนี้ มีคนตายวันละ ๑ คนบ้าง ๒ คนบ้าง ถึงวันละ ๑๐ คนบ้าง พระเจ้าข้า”

  “ ดูก่อนวิสาขา ถ้าคนเหล่านั้นเป็นบุตรหลานของเธอจริง เธอก็คงมีหน้าเปียกชุ่มด้วยน้ำตาโดยไม่มีวันแห้งเหือดวิสาขา คนในโลกนี้ ผู้ใดมีสิ่งเป็นที่รัก ๑๐๐ ผู้นั้นก็จะมีทุกข์ถึง ๑๐๐ ผู้ใดมีสิ่งที่เป็นที่รัก ๕๐ ผู้นั้นก็จะมีทุกข์ถึง ๕๐ เช่นกัน และถ้าผู้ใดมีสิ่งเป็นที่รักเพียง ๑ เดียว ผู้นั้นก็จะมีทุกข์เพียง ๑ เดียวเช่นกัน”

  “ ดูก่อนวิสาขา เราขอบอกเธอว่า ความทุกข์ ความเศร้าโศก ความพิไรรำพันที่คนทั้งหลายประสบกันอยู่ในโลกนี้ ก็เพราะอาศัยสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก ถ้าไม่มีสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รักแล้ว ความทุกข์ ความเศร้าโศก ความพิไรรำพันเหล่านั้นก็ไม่มี ผู้นั้นก็จะมีแต่ความสุข ดังนั้น ผู้ปรารถนาความสุขให้กับตนเอง ก็ไม่ควรทพสัตว์หรือสังขารให้เป็นที่รัก”

  นางวิสาขา เมื่อได้ฟังพระพุทธดำรัสสอนจบลงแล้ว ก็คลายจากความเศร้าโศก แต่เพราะความที่นางมีลูกหลานหลายคน ซึ่งต่อจากนั้นอีกไม่นานนักหลานสาวอีกคนหนึ่ง ที่นางได้มอบหมายหน้าที่ประจำก็ได้ถึงแก่ความตายลงอีก นางวิสาขาก็ต้องเสียน้ำตาร่ำไห้ด้วยความรักอาลัยต่อหลานสาวเป็นครั้งที่สอง และพระพุทธองค์ก็ทรงเทศนาโปรดนางให้คลายความเศร้าโศกลงดุจเดียวกับครั้งก่อน

 

 (ภาพที่พักภายในบริเวณวัดป่าพุทธคยา)
รูปปั้นนางวิสาขามองเห็นแต่ไกล

นางวิสาขาสร้างวัด 

 



  โดยปกตินางวิสาขาจะไปวัดวันละ ๒ ครั้ง คือ เช้า- เย็น และเมื่อไปก็จะไม่ไปมือเปล่า ถ้าไปเวลาเช้าก็จะต้องมีของเคี่ยวของฉันเป็นอาหารไปถวายพระ ถ้าไปเวลาเย็นก็จะถือน้ำปานะไปถวาย เพราะนางมีปกติทำอย่างนี้เป็นประจำ จนเป็นที่ทราบกันดีทั้งพระภิกษุสามเณรและอุบาสิกาทั้งหลาย แม้นางเองก็ไม่กล้าที่จะไปวัดด้วยมือเปล่า ๆ เพราะละอายที่พระภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยต่างก็จะมองดูที่มือว่านางถืออะไรมา และก่อนที่นางจะออกจากวัดกลับบ้าน นางจะเดินเยี่ยมเยือนถามไถ่ความสุข ความทุกข์ และความประสงค์ของพระภิกษุสามเณร และเยี่ยมภิกษุไข้จนทั่วถึงทุก ๆ องค์ก่อนจึงกลับบ้าน

 

 

  วันหนึ่ง เมื่อนางมาถึงวัด นางได้ถอดเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์มอบให้หญิงสาวผู้ติดตามถือไว้ เมื่อเสร็จกิจการฟังธรรมเเละเยี่ยมเยือนพระภิกษุสามเณรแล้วขณะเดินกลับบ้านนางได้บอกให้หญิงรับใช้ส่งเครื่องประดับให้ แต่หญิงรับใช้ลืมไว้ที่ศาลาฟังธรรม นางจึงบอกให้กลับไปนำมา แต่สั่งว่า ถ้าพระอานนท์เก็บรักษาไว้ก็ไม่ต้องเอามาคืนมา ให้มอบถวายท่านไปเลย เพราะนางคิดว่าจะไม่ประดับเครื่องประดับที่พระคุณเจ้าถูกต้องสำผัสแล้ว ซึ่งพระอานนท์ท่านก็มักจะเก็บรักษาของที่อุบาสกอุบาสิกาลือไว้เสมอ

  และได้เป็นไปตามที่นางคิดไว้จริง ๆ แต่นางก็กลับคิดได้อีกว่า “ เครื่องประดับนี้ไม่มีประโยชน์แก่พระเถระ” ดังนั้นนางจึงขอรับคืนมาแล้วนำออกขายในราคา ๙ โกฏิ กับ ๑ แสนกหาปณะ ตามราคาทุนที่ทำไว้ แต่ก็ไม่มีผู้ใดมีทรัพย์พอที่จะซื้อเอาไว้ได้ นางจึงต้องซื้อเอาไว้เอง ด้วยการนำทรัพย์เท่านั้นมาซื้อที่ดินและวัสดุก่อสร้าง ดำเนินการสร้างถวายเป็นพระอารามที่ประทับของพระบรมศาสดา และเป็นที่อยู่อาศัยจำพรรษาของพระภิกษุสงฆ์สามเณร พระบรมศาสดา รับสั่งให้พระมหาโมคคัลลนะ เป็นผู้อำนวยการดูแลการก่อสร้าง ซึ่งมีลักษณะเป็นปราสาท ๒ ชั้น มีห้องสำหรับพระภิกษุพักอาศัยชั้นละ ๕๐๐ ห้อง โดยใช้เวลาก่อสร้างถึง ๙ เดือน และเมื่อสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ได้นามว่า “ พระวิหารบุพพาราม”


 

 

นางวิสาขา
เอตทัคคะในฝ่ายผู้เป็นทายิกา

   เกิดในตระกูลเศรษฐีในเมืองภัททิยะ แคว้นอังคะ บิดาชื่อว่าธนญชัย มารดาสุมนาเทวี และปู่ชื่อเมณฑกเศรษฐี ขณะที่เธอมีอยู่ในวัย ๗ ขวบ เป็นที่รักดุจแก้วตาดวงใจของเมณฑกะผู้เป็นปู่ยิ่งนัก


 

 

เพราะพระเปลือยกายจึงถวายผ้าอาบน้ำฝน 



  โดยปกตินางวิสาขา จะกราบทูลอาราธนาพระพุทธองค์พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์มาเสวยและฉันภัตตาหารที่บ้านของนางเป็นประจำ เมื่อการจัดเตรียมภัตตาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะให้สาวใช้ไปกราบทูลอาราธนาพระผู้มีพระภาคเจ้าและพระภิกษุสงฆ์ให้เสด็จไปยังบ้านของนาง

  วันหนึ่ง สาวใช้ได้มาตามปกติเหมือนทักวัน แต่วันนั้นมีฝนตกลงมาพระสงฆ์ทั้งหลาย จึงพากันเปลือยกายอาบน้ำฝน เมื่อสาวใช้มาเห็นเข้าก็ตกใจเพราะความที่ตนมีปัญญาน้อยคิดว่าเป็นนักบวชชีเปลือย จึงรีบไปแจ้งแก่นางวิสาขาว่า

  “ ข้าแต่แม่เจ้า วันนี้ที่วัดไม่มีพระอยู่เลย เห็นมีแต่ชีเปลือยแก้ผ้าอาบน้ำ กันอยู่ ”

  นางวิสาขา ได้ฟังคำบอกเล่าของสาวใช้ เพราะความที่นางเป็น พระอริยบุคคลชั้นโสดาบัน เป็นพระหมาอุบาสิกา เป็นผู้มีปัญญาศรัทธาเลื่อมใส มีความใกล้ชิดกับพระภิกษุสงฆ์ จึงทราบเหตุการณ์โดยตลอดว่า พระบรมศาสดาทรงอนุญาตให้พระภิกษุมีผ้าสำหรับใช้สอยเพียง ๓ ผืน คือ ผ้าจีวรสำหรับห่ม ผ้าสังฆาฏิสำหรับห่มซ้อน และผ้าสบงสำหรับนุ่ง ดังนั้น เมื่อเวลาพระภิกษุจะอาบน้ำจึงไม่มีผ้าสำหรับผลัดอาบน้ำ ก็จำเป็นต้องเปลือยกายอาบน้ำ

 

  อาศัยเหตุนี้ เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จมาประทับที่บ้านและเสร็จภัตกิจแล้วนางวิสาขาจึงได้เข้าไปกราบทูลขอพร เพื่อถวายผ้าอาบน้ำฝนแก่พระภิกษุสงฆ์ พระพุทธองค์ประทานอนุญาตตามที่ขอนั้น นางวิสาขาก็เป็นบุคคลแรกที่ได้ถวายผ้าอาบน้ำฝนแก่พระภิกษุสงฆ์

 


 

 

พระภิกษุคิดว่านางเป็นบ้า 

  นางวิสาขา ได้ชื่อว่าเป็นมหาอุบาสกาผู้ยิ่งใหญ่ เป็นยอดแห่งอุปัฏฐายิกาทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาด้วยวัตถุจตุปัจจัยไทยทานต่าง ๆ ทั้งที่ถวายเป็นของสงฆ์ส่วนรวม และถวายเป็นของสงฆ์ส่วนบุคคลคือแก่ภิกษุแต่ละองค์ ๆ การทำบุญของนางนับว่าครบถ้วนทุกประการตามหลักบุญกิริยาวัตถุ ดังคำที่นางเปล่งอุทานในวันฉลองวิหาร คือวัดบุพพาราม ที่นางสร้างถวายนั้นด้วยคำว่า..

  “ ความปรารถนาใด ๆ ที่เราตั้งไว้ในกาลก่อน ความปรารถนานั้น ๆ ทั้งหมดของเราได้สำเร็จเสร็จสิ้นสมบูรณ์ทุกประการแล้ว”

  ความปรารถนาเหล่านั้นคือ...

   ๑. ความปรารถนาที่จะสร้างปราสาทฉาบด้วยปูนถวายเป็นพระวิหารทาน

  ๒. ความปรารถนาที่จะถวายเตียง ตั่ง ฟูก หมอน และเสนาสนภัณฑ์

  ๓. ความปรารถนาที่ะถวายสลากภัตเป็นโภชนทาน

  ๔. ความปรารถนาที่จะถวายผ้ากาสาสิกพัสตร์ ผ้าเปลือกไม้ ผ้าฝ้าย เป็นจีวรทาน

  ๕. ความปรารถนาที่จะถวายเนยใส เนยข้น น้ำผึ้ง น้ำอ้อย เป็นเภสัชทาน

  ความปรารถนาเหล่านั้นของนางวิสาขาสำเร็จครอบถ้วนทุกประการ สร้างความเอิบอิ่มใจแก่นางยิ่งนัก นางจึงเดินเวียนรอบปราสาทอันเป็นวิการทานพร้อมทั้งเปล่งอุทานดังกล่าว

  พระภิกษุทั้งหลาย ได้เห็นกิริยาอาการของนางวิสาขาแล้ว ต่างก็รู้สึกประหลายใจ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาง จึงพร้อมใจกันเข้าไปกราบทูลถามพระบรมศาสดาว่า

  “ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญตั้งแต่ได้พบเห็นและรู้จักนางวิสาขามาก็เป็นเวลานานพวกข้าพระองค์ทั้งหลาย ไม่เคยเห็นนางขับร้องเพลงและแสดงอาการอย่างนี้มาก่อนเลย แต่วันนี้ นางอยู่ในท่ามกลางการแวดล้อมของบรรดาบุตรธิดาและหลาน ๆ ได้เดินเวียนรอบปราสาทและบ่นพึมพำคล้ายกับร้องเพลง เข้าใจว่าดีของนางคงจะกำเริบ หรือไม่นางก็คงจะเสียจริตไปแล้วหรืออย่างไร พระเจ้าข้า ?”

  พระพุทธองค์ตรัสแก่ภิกษุเหล่านั้นว่า

  “ ภิกษุทั้งหลาย ธิดาของเรามิได้ขับร้องเพลงหรือเสียจริตอย่างที่พวกเธอเข้าใจหรอก แต่ธิดาของเราเป็นอย่างนั้นก็เพราะความปีติยินดีที่ความปรารถนาของตนที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นนั้นสำเร็จลุล่วงสมบูรณ์ทุกปราการ นางจึงเดินเปล่งอุทานออกมาด้วยความเอิบเอมใจ

  ด้วยเหตุที่นางวิสาขาได้อุปถัมภ์บำรุงพระภิกษุสงฆ์ และได้ถวายวัตถุจตุปัจจัยในพระพุทธศานาเป็นจะนวนมาก ดังกล่าวมา พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้ทรงประกาศยกย่องนางในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าอุบาสิกาทั้งหลาย ในฝ่าย ผู้เป็นทายิกา.

 

พระพุทธเมตตาองค์น้อย
ที่หน้าถ้ำ  ดงคสิริ
บริเวณที่พระพุทธองค์ทรงทรมารสังขาร

ฉันครั้งเดียว  ต่อหนึ่งวัน  แค่อยู่ได้

บริเวณทางเข้าพุทธสถาน

ประทางเข้าไปสู่วัชรอาสม์
ต้นพระศรีมหาโพธิ์

สัปดาที่2
พระพุทธองค์ทรงประทับยืน
อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ของต้นพระศรีมหาโพธิ์  ทอดพระเนตรดูบัลลังก์และต้นพระศรีมหาโพธิ์
ตลอด7วันโดยไม่กระพริบตา
เรียกว่า  อนิมิสเจดีย์

สัปดาห์ที่5 (เสาจำลอง)
ทรงประทับที่ใต้ต้นอชปาลนิโคตร 
ห่างจากต้นพระศรีมหาโพธิ์
ด้านทิศตะวันออก  มีธิดาของพยามาร 
คือนางตัณหา  นางอรดี  นางราคา
มาร่ายรำยั่วยวน 
แต่พระพุทธองค์ไม่ทรงหวั่นไหว

สัปดาห์ที่5
ทรงประทับที่ใต้ต้นอชปาลนิโคตร 
ห่างจากต้นพระศรีมหาโพธิ์
ด้านทิศตะวันออก  มีธิดาของพยามาร 
คือนางตัณหา  นางอรดี  นางราคา
มาร่ายรำยั่วยวน 
แต่พระพุทธองค์ไม่ทรงหวั่นไหว

มองในอีกมุมหนึ่ง

เทียนเต็ก ซินแส

"มีคนเขาว่ามาอินเดีย  เพื่อไหว้พระรับพร  
แต่ไปเมืองจีนเพื่อไหว้เจ้ารับโชค"
วันนี้มีเรื่องเบาๆมาเล่าสู่กันฟังเพื่อความสนุกสนาน
ให้กับผู้ที่คิดว่าจะเดินทางจาริกไปยังดินแดนพุทธิภูมิ  
ตามรอยพระศาสดา  
  สาธารณรัฐอินเดีย
และสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล
จากการสอบถามผู้ที่ได้เดินทางร่วมมากับคณะ
ประมาณหลายสิบคนว่า
เพราะใดจึงได้เดินทางมากับทัวร์คณะนี้
 ได้รับคำตอบว่าเป็นเพราะทัวร์คณะนี้มีราคาแพงที่สุด
      ได้สอบถามต่อไปอีกว่า
เมื่อรู้ว่ามันแพงแล้วทำไมยังเลือกมากับทัวร์คณะนี้
    ได้รับคำตอบว่าที่เลือกมากับทัวร์คณะนี้ก็เพราะว่ามันแพงนะซิ
  ก็เลยทราบว่าโยมคณะนี้เลือกเดินทางมากับ
ทัวร์ที่มีราคาแพงเป็นอันดับแรก
 ส่วนการบริการจะดีหรือไม่ดีไว้เป็นอันดับหลัง
(คิดว่าของแพงต้องดี)

 

 

สัปดาห์ที่1
พระพุทธองค์ทรงประทับนั่งใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
เสวยวิมุติสุข  ตลอด7วัน  พิจารณาปฎิจจสมุปบาทคือ  ธรรมที่อาศัยกันและกัน
หรือวงแห่งการเวียนว่ายตายเกิด

นักบวชธิเบตกำลังเพ่งพิจารณาธาตุ  หินสี 
เพือให้เป็นสมาธิ

ธัญพืชต่างๆ  อาตมาก็ได้รับมองมา2-3กำมือ
เหมือนกัน

บริเวณปะรำพิธีของธิเบต  สวยงามและศักดิ์สิทธิ์

พิจารณาในระยะห่างออกมา

 

พระธิเบตกำลังร่วมทำพิธี  สาธยายพระไตรปิฏก

 

บริเวณพุทธสถานพุทธคยา

มหาวิทยาลัยนาลันทา

 

รับพลัง

ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์บริเวณด้านหลัง
ยามค่ำคืน

บริเวณใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
เดินจงกลม

พระอวโลกิเตศวร  โพธิสัตว์  อธิฐาน

บริเวณใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ด้านใน
หน้าประตู
นั่งเจริญภาวนาตามอัธยาศัย

บริเวณใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ด้านนอกรั้ว
นั่งจงกลมได้ตามสดวก

 

ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ตอนกลางวัน

ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ตอนกลางคืน
ส่วนมากจะเป็นคนไทย

 

ร้านแลกเงิน  และขายน้ำขวด 
บริเวณหน้าพุทธสถาน  เจ้าของร้านพูดไทยได้

ร้านค้าแถวนี้ส่วนมากพูดไทยได้เกือบทุกร้าน
โดยเฉพาะร้านขายเสื้อผ้า
เคยมาอยู่เมืองไทย

 

ร้านนี้อยู่ปากทางเข้าวิหาร
พูดไทยได้
ไปมาเมืองไทยบ่อย  ชื่ออมิตตา
ตั้งค่าตัวไว้ 50,0000 รูปี
(ที่นี่ผู้หญิงไปสู่ขอผู้ชาย)

 

 

 




โครงการปฏิบัติธรรมและบำเพ็ญบุญต่างๆ

เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมที่สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฏร์ธานี (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส เชิญชวนชาวพุทธร่วมสร้างเจดีย์ที่วัดแดงประชาราษฏร์ (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส มอบพระพุทธรูปที่ประเทศอินเดีย
เทียนเต็ก ซินแส 1 จังหวัด 1 รอยพระพุทธบาท ( 76 จังหวัด )
โครงการ 1 จังหวัด 1 รอยพระพุทธบาท (วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร)
โครงการ 1 จังหวัด 1 รอยพระพุทธบาท (วัดโสธรวรารามวรวิหาร)
เทียนเต็ก ซินแส "โครงการ 1 จังหวัด 1 รอยพระพุทธบาท"
เทียนเต็ก ซินแส "โครงการ 1 จังหวัด 1 รอยพระพุทธบาท" ภาคอีสาน
เทียนเต็ก ซฺนแส ปฏิบัติธรรมบนพระมหาเจดีย์พุทธคยา ชั้นสองครั้งที่ ๒๓
เทียนเต็ก ซินแส โครงการ หลวงพ่อถวายพระสู่วัดป่า
เทียนเต็ก ซินแส ถวายรอยพระพุทธบาทจำลอง วัดจอมศรี ถวายเป็นพุทธบูชา
เทียนเต็ก ซินแส มอบรอยพระพุทธบาทที่อินเดีย
โครงการ "หลวงพ่อมาเยี่ยม"
โครงการ "วัดปันสุข"
"พระสังฆราชมีพระบัญชา" ตั้งโรงทานทั่วประเทศ
"พระสังฆราช" มีพระบัญชา ตั้ง"โรงทาน"ทั่วประเทศ
ทอดผ้าป่าสามัคคี มหากุศล
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมที่พุทธคยา และสร้างวัดที่ 4 ในแดนพุทธภูมิ
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมบนพระมหาเจดีย์พุทธคยา ชั้นสองครั้งที่ ๒๒
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมบนพระมหาเจดีย์พุทธคยา ชั้นสองครั้งที่ ๒๑ (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมบนพระมหาเจดีย์พุทธคยาชั้นสอง ครั้งที่ ๒๐ (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมบนพระมหาเจดีย์พุทธคยา ชั้นสองครั้งที่ ๒๐ (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมบนพระมหาเจดีย์พุทธคยาชั้นสอง ครั้งที่ ๑๙ (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมบนพระมหาเจดีย์พุทธคยาชั้นสอง ครั้งที่ ๑๘ (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมบนพระมหาเจดีย์พุทธคยาชั้นสอง ครั้งที่ ๑๗ (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมที่บุโรพุทโธ อินโดนีเซีย ๑๖ - ๒๑ พ.ค.๖๒. (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมบนพระมหาเจดีย์พุทธคยาชั้นสอง ครั้งที่ ๑๖ (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมบนพระมหาเจดีย์พุทธคยาชั้นสอง ครั้งที่ ๑๕ (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมบนพระมหาเจดีย์พุทธคยาชั้นสอง ครั้งที่ ๑๔ (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฎิบัติธรรมแดนพุทธภูมิครั้งที่ 13 "ถ้ำอชันต้า เอลโลร่า" (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมบนพระมหาเจดีย์พุทธคยาชั้นสอง ครั้งที่ ๑๒ (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฎิบัติธรรมแดนพุทธภูมิเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ครั้งที่ 11 (คริก)
คิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี ไปสู่สถานที่ดี
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรม นำพระบรมสุขขึ้นประดิษฐานบนพระธาตุพนม (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ถวายผ้าไตร "องค์พุทธเมตตา" 1ธ.ค.2552 ที่พุทธคยา(คริก) article
เทียนเต็ก ซินแส แนะนำชุมชนพุทธในประเทศอินเดีย (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมแดนพุทธภูมิ "ส่งแม่สู่สรวงสวรรค์" (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมที่ประเทศญี่ปุ่น ช่วงเเกิดแผ่นดินไหวโอซาก้า (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมที่ประเทศศรีลังกา ๒๑-๓๑ ม.ค. ๒๕๖๑ (คริก)
เทียนเต็ก ซินแสปฎิบัติธรรมแดนพุทธภูมิเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ครั้งที่ 11 ตอน 2
เทียนเต็ก ซินแส เชิญชาวพุทธดาวโหลด หนังสือธุดงค์อินเดียฟรี. (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส อบรมเป็นพระวิปัสสนาจารย์ ที่เขาใหญ่ 45วัน ครั้งที่ 1 (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส อบรมเป็นพระวิปัสสนาจารย์ ที่เขาใหญ่ 45วัน ครั้งที่ 2 (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส อบรมเป็นพระวิปัสสนาจารย์ ที่เขาใหญ่ 45 วัน ครั้งที่ 3. (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมที่ประเทศ ภูฏาน วันที่ 22 -26 ส.ค. 2557 (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมที่ประเทศ เวียตนามใต้ครั้งแรก 4-7 ก.ค. 62 (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมที่ประเทศ ภูฏาน วันที่ 22 -26 ส.ค.2557 (คริก)
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมประเทศพม่าครั้งที่ 3 เยี่ยมชมพุกาม
เทียนเต็ก ซินแส เดินทางไปปฏิบัติธรรมที่ประเทศพม่า ครั้งที่ 2
เทียนเต็ก ซินแส เดินทางไปปฏิบัติธรรมที่ประเทศพม่า ครั้งที่ ๑
เทียนเต็ก ซินแส เดินทางไปปฏิบัติธรรมที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ครั้งที่ ๑
เทียนเต็ก ซินแสปฎิบัติธรรมบนมหาเจดีย์พุทธคยา และร่วมสาธยายพระไตรปิฏกครั้งที่ 10
เทียนเต็ก ซินแส ร่วมสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติครั้งที่ 10
เทียนเต็ก ซินแสปฎิบัติธรรมแดนพุทธภูมิครั้งที่ 9 วันที่ 27ม.ค.-7ก.พ.57
เทียนเต็ก ซินแสร่วมสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติ ครั้งที่ ๘ วันที่ 30 พ.ย. - 9 ธ.ค.56
เทียนเต็ก ซินแสปฏิบัติธรรม แดนพุทธภูมิเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ครั้งที่ 8 วันที่30พ.ย.-8ธ.ค.56
เทียนเต็ก ซินแส เศร้าใจต้นพระศรีมหาโพธิ์พุทธคยาหักโค่น
เทียนเต็ก ซินแสปฏิบัติธรรมแดนพุทธภูมิครั้งที่.6 เพื่อเป็นพุทธบูชา 20-27 มี.ค.55
เทียนเต็ก ซินแสปฏิบัติธรรมแดนพุทธภูมิ ครั้งที่.5 วันที่ 29 ม.ค.-6 ก.พ. 55
เทียนเต็ก ซินแสอัญเชิญน้ำพระพุทธมนต์ และมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากประเทศจีน พ.ศ.51 article
เทียนเต็ก ซินแสขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรมแดนพุทธภูมิ เป็นพุทธบูชา 2553 (คริกดูรายละเอียด)
เทียนเต็ก ซินแสปฏิบัติธรรมอินเดีย-เนปาล หลั่งน้ำตาที่กุสินารา 20-27พ.ย.53
เทียนเต็ก ซินแสปฏิบัติธรรมพุทธคยา ถวายผ้าไตร "พระพุทธเมตตา" 20-27พ.ย.53
เทียนเต็ก ซฺนแสปฏิบัติธรรมแดนพุทธภูมิ ลุมพินีวัน สถานที่ประสูตรพระพุทธเจ้า 20-27 พ.ย. 53
เทียนเต็ก ซินแสปฏิบัติธรรมอินเดีย-เนปาล สถานที่ทรงแสดงปฐมเทศนา 20-27 พ.ย. 53
เทียนเต็ก ซินแสปฏิบัติธรรมอินเดีย- เนปาล สังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง 20-27 พ.ย. 53
เทียนเต็ก ซินแสปฏิบัติธรรมครั้งที่ ๓ ตามรอยบาทพระศาสดา วันที่ 20-27 พ.ย. 53
เทียนเต็ก ซินแสปฏิบัติธรรมแดนพุทธภูมิ มหาวิทยาลัยนาลันทาภาค 2 (คริก)
เทียนเต็ก ซินแสเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ที่เขาคิชฌกูฏ 2ธ.ค.52 (คริก)
เทียนเต็ก ซินแสปฏิบัติธรรมอินเดีย-เนปาล สู่แม่น้ำคงคา 4ธ.ค.52
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมแดนพุทธภูมิ เยี่ยมชมมหาวิทยาลัยนาลันทา article
นิลกาย สัตว์ป่าหิมพานต์ เชิงเขาหิมาลัย เนปาล
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมแดนพุทธภูมิเฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่ ๒ article
เทียนเต็ก ซินแสปฏิบัติธรรมแดนพุทธภูมิ ลุมพินี สถานที่ประสูตร 5ธ.ค.52
เทียนเต็ก ซินแสปฏิบัติธรรมอินเดีย-เนปาล วัดเชตวันมหาวิหาร บ้านอนาถะบิณทิกะเศรษฐี article
เทียนเต็ก ซินแสปฏิบัติธรรมอินเดีย-เนปาล กราบบาทพระศาสดา กุสินารา 7ธ.ค.52
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมแดนพุทธภูมิเฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่ ๑
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมแดนพุทธภูมิ อินเดีย-เนปาล (รอยพระพุทธบาท) article
เทียนเต็ก ซินแส เยี่ยมวิหารท่านธรรมะปาละ 3ธ.ค.52
เทียนเต็ก ซินแส ขอเชิญร่วมต่อเศียรองค์พระประธาน
เทียนเต็ก ซินแส แจกพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา article
สมโภชวิหารเจ้าแม่กวนอิม 3 ปาง วัดแดงประชาราษฎร์
สมโภชศาลาพระพุทธเจ้า ปางบำเพ็ญทุกรกิริยา วัดแดงประชาราษฏร์
พิธีเททองหล่อ พระราหู
ทอดกฐินสามัคคี วัดแดงประชาราษฏร์
งานสมโภชน์ฉลองพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ รอบอุโบสถ วัดแดงประชาราษฏร์
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมล้านนา
เทียนเต็ก ซินแส ถวายพระพุทธรูปในแดนพุทธภูมิ เป็นพุทธบูชา
โครงการถวายรอยพระพุทธบาทจำลอง เพื่อเป็นพุทธบูชา
เทียนเต็ก ซินแส จะถวายพระพุทธรูปเป็นพุทธบูชา ในแดนพุทธภูมิ
เทียนเต็ก ซินแส ปฏิบัติธรรมที่พุทธคยาสร้างวัดพุทธวัดที่ 3 เป็นพุทธบูชา (คริก)
ชาวสยามร่วมกันมอบพระประธานให้กับวัดพุทธ ในประเทศบังกลาเทศ
ปี่เซี๊ยะดีที่สุด 貔貅 ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด รายได้ทุกบาท ทุกสตางค์เข้าวัดทั้งหมด article



dot
www.henghengheng.com
dot
dot
Web Link
dot
bullettiantekpro.com
bullettiantek.net
bullettiantek.com
bullethorawej.com
dot
Llink
dot
bullethotmail.com
bulletyahoo.com
bulletgmail.com
bulletgoogle.co.th
bulletเดลินิวส์
bulletไทยรัฐ
bulletข่าวสด
bulletบ้านเมือง
bulletมติชน
bulletคมชัดลึก
bulletกรุงเทพธุรกิจ
bulletผู้จัดการ
dot
Newsletter

dot
bulletแลก ลิ้ง ได้ที่นี่



อ.รุ่งนภา พยากรณ์
(แม้นเมือง
)

พิมพ์ปารีณา
รับพยากรณ์
จัดฮวงจุ้ยและรับสอน

ติดต่อได้ที่
โทร.
085-3253709

http://
pimandfriends.
blogspot.com/



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
Best View 1024 x 768 pixels.............
พระอาจารย์ธงชัย ธมฺมกาโม (เทียนเต็กซินแซ).....e-mail address tiantek@hotmail.com และ tiantek@henghengheng.com
วัดแดงประชาราษฎร์ ถ. บางกรวยไทรน้อย ต. บางสีทอง อ. บางกรวย จ.นนทบุรี รหัส 11130
โทร 0-2447-3593, 0-1936-6908

javascript hit counter

View My Stats


รวมสุดยอกของเฮง รับพยากรณ์ดวงชะตาและสอนเลข 7 ตัว 9 ฐานประยุกต์ ต้องการมีเวปไซด์ของตัวเอง คลิกที่นนี่ Enter to M T h
A ! 100HOT Sites and Vote for this Site!!! www.horawej.com เวปนิตยสาร โหราเวสม์  เพื่อการศึกษาค้นคว้า โหราศาสตร์ และศาสตร์ต่าง ๆ รวมทั้งโปรแกรมผูกดวงต่าง ๆ มากมาย ทางเรายินดี เป็นศูนย์กลางของการเผยแพร่ ความรู้ทางศาสตร์ แห่งโหรศาสตร์ และอื่น ๆ ที่ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ผู้ใดหากท่านใดต้องการรับการพยากรณ์เชิญในห้องกระทู้ มีอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิคอย ตอนรับท่าน อยู่หลายท่าน เรียนเชิญครับ ด้วยความเคารพอย่างสูง webmaster horawej@horawej.com web 10 luckastro.com เป็นเว็ปเพื่อการศึกษาโหราศาสตร์ 10 ลัคนา และโหราศาสตร์สาขาอื่น ๆ ทุกสาขาวิชา เว็ป 10 luckastro.com เป็นศูนย์รวมของนักพยากรณ์ทุกระดับทุกสาขาวิชา เป็นจุดนัดพบและสื่อสารในระหว่างนักศึกษาโหราศาสตร์ด้วยกัน และในระดับครูบาอาจารย์ เว็ป 10 luckastro.com ยินดีในการให้บริการตอบปัญหาทั้งปัญหาชิวิตและปัญหาทางโหราศาสตร์ www.tiantek.com เวปเพื่อการศึกษาค้นคว้า โหราศาสตร์จีน และ เลือกหัวข้อที่ต้องการดู (ดูได้ทุกเรื่องโดยไม่จำกัด) บอกวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟากตามหลักสากล และบอกเหตุการณ์ที่ผ่านมา...เช่นแต่งงาน...มีบุตร ทำงานหรือทำธุรกิจ.เมื่อปีพ.ศ....และข้อสุดท้ายช่วยแจ้งด้วยว่าขณะนี้กำลังทำอะไรอยู่ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของดวง ข้อมูลยิ่งมากการทำนายยิ่งแม่น ถ้าภายใน 24 ชั่วโมง(หนึ่งวัน)ยังไม่ได้รับคำทำนาย อาตมาอนุญาติให้โทรเข้ามาถามดวงสดสดได้ 
เวปไซด์ของอาตมา เป็นเวป เพื่อการศึกษาและเผยแผ่ธรรมะ และถ้าโยมช่วยบอกต่อให้ผู้อื่นได้ทราบมากเท่าใดยิ่งได้บุญมากเท่านั้น 
www.maleeseacon.com เวปเพื่อการสะสมพระเครื่อง บูชาเครื่องของขลัง ณ ห้างสรรพสินค้า ซีคอนสแควร์ ชั้น 3 โซนโลตัส ถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ กทม 10250 Wireless Home Automation 
ท่านไม่ต้องเป็นวิศวกรหรือมีความรู้ทางด้านอิเลคโทรนิคส์ และไม่ต้องเดินสายไฟฟ้าเพิ่มเติม ท่านก็สามารถออกแบบและติดตั้งระบบบ้านอัจฉริยะได้อย่างสะดวกง่ายดายด้วยตัวท่านเอง  
ชุมนุมผู้เป็นปฏิปักษ์กับหัว ขโมย มหาหมอดู PostJung.com เวบเพลง Online เพลง Update Intrend, หาเพื่อน MSN, Diary, Webboad โพสท์รูปซะใจ, PhotoAlbum ฯลฯ...Click เลย ชุมชนคนช่างฝัน สุดยอดแห่งสาระ และ ความบันเทิง ศูนย์รวม CODE ทุกอย่าง โรจน์ จินตมาศ   จุ๊กกรู! ดอท คอม ..มุมสงบ ผ่อนคลาย ครื้นเครง ป็นกันเอง..ดูดวงฟรี หวย ฟังเพลง เกมส์ หาเพื่อน หากิ๊ก ข่าว ดูดวง  Give information about Thai orchids ตลาดนัดรถรถบ้านที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ Image Hosted by ImageShack.us ซื้อขายออนไลน์ 24 ชั่วโมง