(โครงการพาพ่อลัดฟ้าจาริกแดนพุทธภูมิ)
2 ธ.ค.52
โครงการพาพ่อลัดฟ้าจาริกแดนพุทธภูมิ
วันที่ 2 ธ.ค. 52 เดินทางไปยังเขาคิชกูฎ ซึ่งเป็นที่จำพรรษาของพระอรหันต์หลายองค์ เช่น
1. พระสารีบุตร
2. พระอานนท์
3. พระมหากัสสปะ
4. พระอนุรุทธะ
5. พระปุณณมันตานีบุตร
6. พระอุบาลี
เพื่อกราบสักการะพระคันธกุฏิขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งอยู่บริเวณยอดสุดของเขาคิชกูฏ เพื่อระลึกถึงพระพุทธองค์ที่เสด็จมาประทับ ณ ยอดเขาแห่งนี้เสมอ และได้ตรัสแสดงธรรมหลายพระสูตร เช่น มาฆสูตร ธัมมิกสูตร มหาสาโรปมสูตร อาฏานาฏิยสูตร และ อปริหานิยธัมมสูตร เป็นต้น ผู้มาถึงสถานที่แห่งนี้เหมือนประหนึ่งได้มาเข้าเฝ้าพระบรมศาสดาถึงที่ประทับ จะมีแต่ความปีติ เบิกบานแจ่มใสอย่างชนิดที่ไม่เคยประสพมาก่อนในชีวิต
ชาวพุทธทุกคนที่มาถึงสถานที่นี้ ก็จะเตรียมเครื่องบูชาออกมาถวายสักการะที่บริเวณแท่นบรรทมของพระพุทธองค์ ต่อจากนั้นก็จะสาธยายมนต์ เดินจงกรม หรือเจริญภาวนา อาจจะบรรลุถึงสภาวธรรมอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในชีวิตนี้ก็เป็นไปได้
พุทธทาสภิกขุ
“ชาวพุทธต้องมีความกตัญญูกตเวที
การตอบแทนนี่จะไม่ใช่เพียงตอบแทนอินเดีย
แต่มันจะตอบแทนพระคุณของพระพุทธเจ้าด้วย
พระพุทธเจ้าเป็นคนอินเดีย ศาสนาของพระองค์เกิดในอินเดีย
พุทธศาสนาเป็นศาสนาของอินเดีย”
(จาก...พระคุณของอินเดียที่มีต่อไทย)
|
|
เขาคิชฌกูฏหรือคิชฌบรรพต
|
บนยอดเขาคิชฌกูฏ มีซากอิฐ ก่อเป็นฐานสี่เหลี่ยม มองเห็นบนยอดสุดของภูเขา คือคันธกุฎีของพระพุทธเจ้า เป็นที่ที่ชาวพุทธถือว่าเป็นสถานที่สำคัญ พากันมากราบไหว้บูชา
เพื่อระลึกถึงพระพุทธองค์ที่เสด็จมาประทับ ณ ยอดเขาแห่งนี้อยู่เสมอ และได้ตรัสแสดงธรรมหลายพระสูตร เช่นมาฆสูตร ธัมมิกสูตร มหาสาโรปมสูตร อาฏานาฏิยสูตร และอปริหานิยธัมมสูตร
ผู้ที่มาถึงสถานที่แห่งนี้เหมือนว่าได้มาเข้าเฝ้าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงที่ประทับ ดวงจิตมีแต่ความปีติเบิกบาน อย่างน่าอัศจรรย์ |
|
บรรดาชาวพุทธทั่วโลก เมื่อมาถึงที่นี่จะนึกถึงภาพในอดีตกาล ราวกับว่าพระพุทธองค์เสด็จจากที่นี่ไปเมื่อไม่นานมานี้เอง
และรู้สึกเหมือนพระองค์ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ เมื่อได้นั่งอยู่หน้ามูลคันธกุฏีของพระองค์แล้ว ไม่อยากลาจากไป
คล้ายกับว่ามีอำนาจลี้ลับดึงดูดจิตใจให้มีศรัทธาเชื่อมั่น ดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระพุทธองค์
|
|
พระตถาคตเจ้าเสด็จขึ้นมาประทับ ณ ที่นี่ คงไม่ใช่เพื่อความสุขอะไรยิ่งไปกว่าความวิเวก ว่างเว้นจากการรบกวนใดๆ พระเจ้าพิมพิสารทรงทราบเช่นนี้ จึงโปรดให้ข้าราชบริพารอยู่เบื้องล่างห่างไกลจากกัน
|
|
บริเวณที่ประทับเดิมเป็นกุฏิแคบๆ เหมาะจะนั่งมากกว่านอน กว้าง 3 ศอก กับ 1 คืบ ยาว 4 ศอกเท่านั้น
ความจำเป็นของมนุษย์ในเรื่องที่พักอาศัยมีเพียงเท่านี้เอง คือ เพียงนั่งได้และนอนได้เท่านั้น กุฏินี้แหละที่พระมหาบุรุษของโลกได้เสด็จมาพักพิงอาศัย และทรงพอพระทัยกว่าที่อื่น
|
|
เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ชาวพุทธทุกคนจะกุลีกุจอเตรียมเครื่องบูชาที่นำมาออกถวายสักการะที่แท่นบรรทมของพระพุทธองค์
พร้อมกับประนมมือไหว้พระ สวดมนต์ สรรเสริญ สดุดีพระกรุณาธิคุณของพระบรมศาสดา หรือหาที่นั่งในมุมสงบ เจริญจิตภาวนาท่ามกลางความเงียบสงัด ก่อนจะกราบลา
เนื่องด้วยมีเวลาจำกัด แต่ก็ควรได้เดินประทักษิณรอบพระกุฏิ น้อมระลึกถึงพระพุทธานุภาพ พร้อมบูชาอาราธนามาคุ้มครองรักษาตนต่อไป
|
|
เมี่อจุดธูปเทียนเสร็จแล้ว วนหาที่อันควรส่วนที่เหมาะแก่การนั่งปฏิบัติธรรมได้แล้ว ขณะสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย และอาฏานาฏิยปรหิตร อันเป็นมนต์ที่ยักษ์กราบทูลพระพุทธเจ้าให้โปรดแนะนำแก่พระให้สวดประจำ หาไม่แล้ว เหล่ายักษ์อันธพาลที่ไม่เลื่อมใสในพระรัตนตรัย จะทำอันตรายแก่ผู้ปฏิบัติธรรมที่นั่งอยู่ในป่าในถ้ำ
พระพุทธองค์ทรงรับมนต์นั้นมา พร้อมกับทรงแนะนำให้พระสวดประจำ เพื่อให้เกิดพลานุภาพ จึงได้นำมนต์ส่วนที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า 28 พระองค์มาสาธยายด้วย ขณะนั่งเจริญจิตภาวนาอยู่นี้ อานุภาพของพระพุทธเจ้า 28 พระองค์จะได้มาเสริมศรัทธาบารมี. |
|
|
คำอธิษฐาน ณ พระมูลคันธกุฎี ยอดเขาคิชฌกูฎ |
๑. ขอให้เจริญในธรรมคำสอนพระพุทธองค์ ๒. ขอให้การงานมั่นคงดั่งเขาคิชฌกูฎ
๓. ขอให้ศรัทธาบริสุทธิดุจคู่อัครสาวก ๔. ขอให้ไม่ตกในอบายในวัฏสงสาร
๕. ขอให้ปัญญาแตกฉานในพระสัทธรรม ๖. ขอให้ร่ำรวยร่มเย็นเป็นมหาเศรษฐี
๗. ขอให้สุขภาพดีไม่มีโรคภัยเบียดเบียน ๘. ขอให้มีความเพียรถึงฝั่งพระนิพพาน
๙. ขอให้ญาติมิตรบริวารเป็นคนดีมีศีลธรรม
เทียนเต็ก ซินแส
"มีคนเขาว่ามาอินเดีย เพื่อไหว้พระรับพร
แต่ไปเมืองจีนเพื่อไหว้เจ้ารับโชค"
วันนี้มีเรื่องเบาๆมาเล่าสู่กันฟังเพื่อความสนุกสนาน
ให้กับผู้ที่คิดว่าจะเดินทางจาริกไปยังดินแดนพุทธิภูมิ
ตามรอยพระศาสดา
ณ สาธารณรัฐอินเดีย
และสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล
จากการสอบถามผู้ที่ได้เดินทางร่วมมากับคณะ
ประมาณหลายสิบคนว่า
เพราะใดจึงได้เดินทางมากับทัวร์คณะนี้
ได้รับคำตอบว่าเป็นเพราะทัวร์คณะนี้มีราคาแพงที่สุด
ได้สอบถามต่อไปอีกว่า
เมื่อรู้ว่ามันแพงแล้วทำไมยังเลือกมากับทัวร์คณะนี้
ได้รับคำตอบว่าที่เลือกมากับทัวร์คณะนี้ก็เพราะว่ามันแพงนะซิ
ก็เลยทราบว่าโยมคณะนี้เลือกเดินทางมากับ
ทัวร์ที่มีราคาแพงเป็นอันดับแรก
ส่วนการบริการจะดีหรือไม่ดีไว้เป็นอันดับหลัง
(คิดว่าของแพงต้องดี)
|
คำบูชาที่มูลคันธกุฏิ ยอดเขาคิชฌกูฏ
วันทามิ ภันเต ภะคะวา อิมัง ระมะนียัง ราชะคะเห คิชฌะกูเฏ มูละคันธะกุฏิง, ยัตถาคะโตมหิ, ยัง อาคัมมะ ราชา พิมพิสาโร มะระณา สันนะกาเล พุทธารัมมะนัง ปีติง ภาเวสิ, ยัสสาวิทูเร ปุพเพ จะตุโลกะ ปาลาทีนัง ธัมโม จะ วินะโย จะ เทสิโต ปัญญัตโต.
สาธุ โน ภันเต, อิเมหิ สักกาเรหิ อะภิปูชะยามิ, สวากขาตัญจะ นะมามิ, มัยหัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ.
คำแปล
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้า ได้มาถึงมูลคันธกุฏิยอดเขาคิชฌกูฏ ในมหานครราชคฤห์แห่งนี้ อันเป็นรมณียสถานที่เคยประทับของพระผู้มีพระภาคเจ้า แลบัญญัติพระวินัย แสดงธรรม อันเป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ทั้งปวง มีพระอริยสาวก ท้าวจาตุโลกบาล ได้แวดล้อมในการครั้งก่อน
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าขอบูชาโดยยิ่ง ด้วยเครื่องสักการะเหล่านี้ และขอน้อมระลึกถึงพระธรรม ที่ทรงแสดงไว้ดีแล้ว ขอการบูชาสักการะในครั้งนี้ จงเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข เพื่อมรรคผลนิพพานแก่ข้าพระพุทธเจ้า ตลอดกาลนานเทอญฯ
|
|
|
ทุกท่านพร้อมใจกันนั่งสมาธิภาวนาเพื่อ
อธิษฐานให้พระเจ้าอยู่หัว ของเราชาวไทย
มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย
ตราบนานเท่านาน. |
|
โยมนั่งสมาธิด้วยจิตใจที่แน่วแน่และเด็ดเดี่ยว
บริเวณหน้ากุฏิพระพุทธเจ้า |
|
ความรู้สึกของพวกเราในขณะนั้น มีความรู้สึกว่ามีปีติเกิดขึ้น
เหมือนหนึ่งได้เข้าเฝ้าพระบรมศาสดา สัมมาสัมพุทธเจ้า
ต่อหน้าพระพักตร์ และอีกอย่างหนึ่งคือได้มาอธิษฐานจิตให้กับพระเจ้าอยู่หัวของเราให้มีสุขภาพแข็งแรง |
|
คณะศรัทธาธรรมได้กราบลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเรียบร้อยแล้วจึงได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก บริเวณกุฏิพระพุทธเจ้า |
|
คณะเราได้มากราบและปิดทองบริเวณถ้าสุกรขาตา
ที่ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสแสดงธรรมโปรดพระสารีบุตร
สำเร็จเป็นพระอรหันต์ |
|
ทุกคนเดินทางกลับ ด้วยความเบิกบาน และมีความสุข |
ในบรรดาผู้เดินทางแสวงบุญตามพุทธสถาน เมื่อขึ้นเขาคิชฌกูฏ สิ่งหนึ่งที่จะต้องกำหนดไว้ คือ การไหว้พระ สวดมนต์ โดยเฉพาะที่ขาดไม่ได้คือ ที่พุทธวิหารบนยอดเขา ส่วนที่เป็นรองไม่ควรผ่านไป คือที่ถ้ำสุกรขาตา เพื่อระลึกถึงอริยสงฆ์ยอดกตัญญู คือ พระสารีบุตร ซึ่งท่านสำเร็จเป็นพระอรหันต์ที่นี้ และเพื่อใช้เวลาขณะนั่งพักให้เป็นประโยชน์ ขอนำความที่เกี่ยวข้องกับพระอัครสาวกเบื้องขวาของพระบรมศาสดามาเล่า ขณะนั่งเจริญภาวนาว่า
คำบูชาที่ถ้ำสุกรขาตา
วันทามิ ภันเต ภะคะวา อิมัง คิชฌะกูฏะปัพพะตะปาเท สุกะระขาตะคุหัง, ยัตถาคะโตมหิ, อิธะ โข ปะนะ ภะคะวา เวทะนา ปะริคคะหะสุตตัง เทเสสิ ยัง สุตวา สารีปุตโต อะระหัตตัง สัจฉากาสิ ภาคิเนยโย จัสสะ ปะริพพาชิโก โสตาปัตติผะเล ปะติฏฐะหิ.
สาธุ โน ภันเต, อิเมหิ สักกาเรหิ อะภิปูชะยามิ, สวาขาตัญจะ นะมามิ, มัยหัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ.
คำแปล
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าได้มาถึงแล้ว ถ้ำสุกรขาตา สถานที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงแสดงธรรม ชื่อเวทนาปริคหสูตร เป็นเหตุให้พระสารีบุตร ผู้เป็นอัครสาวกได้บรรลุอรหัตผล และทีฆนขปริพาชกได้บรรลุโสดาบันฯ
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าขอบูชาโดยยิ่ง ด้วยเครื่องสักการะเหล่านี้ และขอน้อมระลึกถึงพระธรรม ที่ทรงแสดงไว้ดีแล้ว ขอการบูชาสักการะในครั้งนี้ จงเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข เพื่อความถึงพร้อมแห่งปัญญาญาณในชาตินี้และชาติหน้า แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตลอดกาลนาน เทอญฯ
|