ศาลเจ้าที่  ตี่จู่เอี้ย
ซินแสหลิน

ตำนานเทพเจ้าที่ “ ตี่จู่เอี๊ย” 土地公的由來 เทพเจ้าที่ “ ตี่จู่เอี๊ย”หรือโถวตี่กง ซึ่งชาวจีนให้ความเคารพนับถือมาก เพราะเชื่อกันว่าเทพเจ้าที่จะช่วยคุ้มครองให้ทุกคนในครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ทำมาค้าขึ้น.ทุกวันนี้เราจะเห็นว่าทั้งชาวไทยและชาวจีนแต่ละบ้านก็จะมีศาลเทพเจ้าที่ “ ตี่จู่เอี๊ย”ไว้เคารพบูชาเป็นประเพณียาวนานจนถึงทุกวันนี้！ เทพเจ้าที่ “ ตี่จู่เอี๊ย”หรือโถวตี่กงกำเนิดในยุคสมัยราชวงค์โจวเวินหวังของประเทศจีน,ชื่อเดิมแซ่จางชื่อฝุเต๋อได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้โจวเวินหวังเป็นขุนนางที่เกี่ยวกับการเก็บภาษีให้แผ่นดิน,ในยุคสมัยราชวงค์โจว.จางฝุเต๋อซึ่งเป็นขุนนางที่มีฐานะที่ร่ำรวยแล้วยังมีจิตใจที่เมตตาต่อคนที่ยากจนและชาวนา,ได้รับการไว้วางใจจากฮ่องเต้โจวเวินหวังเป็นที่รักและเครพของราษฎรมากๆ จางฝุเต๋อเกิดเมื่อวันที่16เดือน2ของจีน,และมีอายุยืนถึง109ปี,หลังจากเสียชีวิต ฮ่องเต้ได้สร้างศาลเจ้า จางฝุเต๋อให้ประชาชนกราบไห้วและระลึกความดีของ จางฝุเต๋อ.หลังจากเวลาผ่านไปหลายปี,มีชายผู้หนึ่งได้เดินทางไปต่างแดนทำการค้าและล้มเหลวฐานะยากจน แต่ก็ยังระลึกถึงศาลเจ้าจางฝุเต๋อบ้านเดิมของตนอยู่เสมอ แต่ไม่มีค่าเดินทางกลับบ้าน จึงได้นำก้อนหิน4ก้อนมาสร้างเป็น ศาลเจ้า จางฝุเต๋อและกราบไห้วบูชาตลอดมา,ต่อมาเพราะความขยันทำมาหา กินของชายผู้นี้ฐานะก็ดีขึ้นและร่ำรวยและยังเมตตาให้ทานช่วยเหลือคนยากจนในเวลาต่อมา .ชาวบ้านที่เห็นความสำเร็จของชายผู้นี้ก็ใด้เล่าบอกต่อๆกันทุกๆบ้านและได้ตั้งเทพเจ้าที่ “ ตี่จู่เอี๊ย”บูชาตลอดมา.

ฮวงจุ้ยภาคพิเศษ
ประเพณีตรุษจีน

ฮวงจุ้ย ประเพณีเทศการตรุษจีน * ซิง เจีย อยู่ อี่ ซิง นี้ ฮวก ไช้ * แปลว่า * ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ปราถนาสิ่งใดได้      ดั่งใจ ทั้งโชคลาภและเงินทอง * ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านคงคุ้นเคยกับคำอวยพรของชาวไทยเชื้อสายจีนในเทศการตรุษจีน ประเพณีชาวจีนในวันขึ้นปีใหม่ สังเกตุได้ที่หน้าบ้านชาวไทยเชื้อสายจีนจะติดกระดาษสีแดงเขียนอักษรจีนสี่ตัว ติดบนฝาผนังสองข้าง ทุกๆสีตัวอักษรจีนจะเป็นคำอวยพรต่างๆ ขึ้นอยู่กับเราชอบความหมายนั้นๆ กระดาษสีแดงทั้งสองแผ่นที่เขียนคำอวยพรเป็นตัวอักษรจีนแปดตัวเรียกว่า * ตุ้ยเลี้ยง * ในศาสตร์แห่งวิชาฮวงจุ้ย ชาวจีนถือว่าสิ่งที่เป็นศิริมงคลต้องเป็นเลขคู่ เช่นเลขสองของชาวจีนกวางตุ้งหมายถึงทำการสิ่งใดก็จะสมหวังอย่างง่ายๆและราบรื่นตลอดไป อักษรเลขแปดออกเสียงตรงกับภาษาจีนที่มีความหมายคำว่ารำรวย ฉนั้นคหบดีอัมดับหนึ่งของชาวจีนฮ่องกง ท่านแซ่ลี ชื่อ กาเซนท่านเป็นคนจีนแต้จิ๋วเกิดที่มณฑลซัวเถา หลังจากได้มีโอกาสเดินทางมาที่เกาะฮ่องกงทำธุรกิจ ศัทธาในศาสตร์แห่งวิชาฮวงจุ้ยเป็นแนวทางที่ได้นำมาปรับเปลี่ยนและใช้กับวิถีชีวิตประจำวันในทางด้านธุรกิจจึงสามารถขยายกิจการให้เติบโตเจริญรุ่งเรือง ท่านลงทุนประมูลป้ายทะเบียนรถยนต์ที่มีเลขแปดสี่ตัวในราคาที่สูงมากๆ ผมขอเสริมอีกหนึ่งความหมายที่ในตำราไม่มีบันทึกไว้นั่นคือเลขแปดเป็นเลขที่มีรูปร่างของน้ำเต้า น้ำเต้าปาเล็กรูปร่างใหญ่หมายถึงเรานำไปใส่น้ำจะบรรจุน้ำได้มาก ชาวจีนถือว่าน้ำสื่อถึงความหมายของเงินทองมีเข้าไม่มีรั่วไหลเปลียบเสหมือนน้ำเต้าเช่นเดียวกัน ในเทพนิยายของชาวจีนแต่สมัยโบราณหนึ่งในแปดเซียนได้นำน้ำเต้าใส่โอสถทิพย์สำหรับเอามารักษาโลคภัยไข้เจ็บของมวลมนุษย์ แปดเซียนสื่อถึงความหมายรำรวยก่อนเพื่อน ในวิชาฮวงจุ้ยสีแดงคือธาตุไฟ หมายถึงการแสดงความยินดี ความรื่นเริง สติปัญญา สิ่งที่เป็นมงคล การต้อนรับ การสื่อสาร พลังหยาง เคลื่อนไหว แสงสว่าง หัวใจ ความรักฯ สังเกตได้ว่าชาวจีนจะมีเรื่องมงคลต่างๆส่วนใหญ่จะใช้สีแดงเป็นหลัก เช่น วันปีใหม่ เทศการตรุษจีน งานแต่งงาน งานมั่น ฉลองงานวันเกิด ฉลองงานเปิดห้างร้านใหม่ บริษัทใหม่ โรงงานใหม่ฯ ร้านทองหรือภัตคารจีนก็จะนิยมใช้สีแดงเป็นหลักเพื่อเป็นจุดเด่นจุดสนใจที่มาดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ศาลเจ้าส่วนใหญ่จะทาสีแดงเป็นหลักนอกจากสีแดงคือธาตุไฟและยังเป็นสีที่เป็นศิริมงคลอีกด้วยครับ ชุดแต่งงานเจ้าบ่าวเจ้าสาวของชาวจีนก็นิยมสวมใส่สีแดงที่เป็นมงคลเพราะว่าสีแดงสื่อถึงหัวใจและพลังแห่งความรัก ประเพณีการเชิดสิงห์ในเทศการตรุษจีน มีที่มาอย่างไรและทำไมมีการจุดประทัด ในยุคสมัยโบราณมีสัตว์ประลาดชาวบ้านเรียกว่าตัวเหนียน (ภาษาจีนกลาง เหนียน แปลว่าปี ) ชอบกินคนเป็นอาหารในยามกลางคืนทำให้ชาวบ้านวาตกลัว วันหนึ่งมีผู้เฒ่าเดินทางผ่านมา เห็นชาวบ้านทุกใจ จึงถามสาเหตุเรื่องราวของสัตว์ประลาดตัวเหนียนที่ได้มากินคนในหมู่บ้านเป็นอาหารในยามกลางคืน หลังจากนั้นผู้เฒ่าได้บอกกับชาวบ้านทุกคนว่าเราจะไปคุยกับเจ้าสัตว์ประลาดตัวเหนียนห้ามมากินคนบนโลกมนุษย์นี้เป็นอันคาต ชาวบ้านทุกคนรู้สึกแปลกใจคิดว่าผู้เฒ่านี้ที่มาจากต่างถิ่นอาจจะตกใจเกินจนเสียสติ และแล้วผู้เฒ่าก็ได้เดินทางไปคุยกับเจ้าสัตว์ประลาดตัวเหนียน พอตัวเหนียนเห็นผู้เฒ่าก็คิดจะกินผู้เฒ่าเป็นอาหารเพราะว่ากำลังหิวอยู่พอดี แต่ผู้เฒ่าได้บอกตัวเหนียนว่าถ้าเจ้าเก่งจริงจงไปกินสัตว์ดุร้ายที่อยู่บนภูเขาให้หมดแล้วกลับมากินผู้เฒ่ายังไม้สาย หลังจากนั้นตัวเหนียนก็ได้ไปกินสัตว์ดุร้ายที่อยู่บนภูเขาให้หมดแล้วก็กลับมาจะกินผู้เฒ่า แต่ผู้เฒ่าได้บอกเจ้าตัวเหนียนว่า จะกินอาหารให้อร่อยต้องใจเย็นๆให้เราเตรียมถอดเสื้อนอกออกก่อนค่อยกิน หลังจากผู้เฒ่าได้ถอดเสื้อนอกออกแล้วเหลือแต่เอี๊ยมสีแดงแจ๊ดทำให้ตัวเหนียนแสบตาเมื่อตัวเหนียน มาถึงก็จุดประทัดตีกลองเสียงดังทำให้ตัวเหนียนตกใจตื่นกลัว และแล้วตัวเหนียนก็ตะโกนบอกว่า“ข้ากลัวสีแดงกับเสียงทัดตีกลองมากที่สุด ” แท้จริงผู้เฒ่านี้เป็นเซียนแปรงร่างมาเพื่อปราบเจ้าสัตว์ประลาดตัวเหนียนโดยเฉพาะ หลังจากเซียนท่านนี้ได้ปราบเจ้าตัวเหนียนแล้ว ได้สอนให้ใช้ชาวบ้านทุกคนสวมใส่เสื้อผ้าสีแดงที่เป็นศิริมงคลและใช้ผ้าแดงปิดที่หน้าประตูซ้ายขวาทั้งสองด้านยึดถือเป็นประเพณีในวันตรุษจีน เมื่อตัวเหนียน มาถึงก็จุดประทัดตีกลองแสดงถึงความรื่นเริงเต็มไปด้วยความสุขสนุกสนานพร้อมใจกัน พลังแห่งความสมัคคีของชาวบ้าน ทำให้ตัวเหนียนตกใจหนีไป ตั้งแต่นั้นมาทำให้ชาวบ้านทุกคนอยู่เย็นเป็นสุข เพื่อการระรึกถึงในวันที่คับไรตัวเหนียน หลังจากนั้นชาวจีนได้สืบถอดประเพณีเทศการตรุษจีนมาถึงทุกวันนี้ เทศตรุษจีน*ภาษาจีนกลางเรียกว่า ชุนเจียะ* หมายถึงเทศการในฤดูใบไม้ผลิของขาวจีน *ภาษาจีนกลางเรียกว่า หนงลิซินเหนียน* มีความหมายคือปีใหม่ในปฏิทินของขาวจีน *ภาษาจีนกลางคำว่า เจิงเหย่ชูอี่*เป็นวันแรกเริ่มต้นวันปีใหม่ของประเพณีชาวจีน ในอดีตมีตำนานกล่าวว่าตัวเจิ้งคล้องเสียงตรงกับชื่อของชินซีฮ่องเต้ทำให้ทรงกิ้ว ได้สั่งให้ ตัว เจิ้งเหย่ชูอี่ เรียกเป็น เจิงเหย่ชูอี่ เป็นการทำความเคารพชินซีฮ่องเต้มาถึงทุกวันนี้    อ.ภัทรพล แซ่ลิ้ม นามปากกา ซินแส หลิน ยินดีให้คำปรึกษาทุกท่านที่มีปัญหาเกี่ยวกับฮวงจุ้ย www.heng heng heng.com

สถานที่ติดต่อ