ReadyPlanet.com
dot dot
dot
สุดยอดปี่เซียะ โดยซินแสหลิน

 

สุดยอดปี่เซียะ
โดยซินแสหลิน

 

ประวัติปี่เซียะ

            ในสมัยจักรพรรดิ์  หวงตี้  (จักรพรรดิ์เหลือง) มีการรบกับข้าศึกชือว่า ชืออิ๋ว เป็นครึ่งสัตว์ครึ่งคน  เก่งทั้งเวทย์มนต์คาถา  รู้ทั้งดินฟ้าอากาศ  วันหนึ่งจักรพรรดิ์หวงตี้  ได้ทำพิธีบวงสรวงเพื่อขออัญเชิญเทวดา  ได้นำขุนพลนักรบสวรรค์  เป็นสัตว์มงคลหกชนิด  มาช่วยสู้รบ  ซึ่งหนึ่งใน 6 ก็คือขุนพลปี่เซียะ  (ปี่คือตัวผู้  เซียะคือตัวเมีย) ปี่เซียะในภาษาแต้จิ๋วสื่อถึงความหมายขจัดสิ่งชั่วร้าย  ภาษาจีนกลางเรียกว่าผีซิ่ว  ภาษากวางตุ้งเรียกว่าเผเย้า  ปี่เซียะเป็นลูกมังกรตัวที่ 9
มีอิทธิฤทธิ์เหนือกว่ามังกรหลายพันเท่า  มีลักษณะหัวเป็นมังกร  ลำตัวเป็นม้า  ปีกนกอินทรี  ขาเหมือนสิงห์โต  หางคล้ายแมว  ถ้ามีเขาเดียวคือปื่เซียะ  ถ้ามีสองเขาคือเทียงลก  คือกวางสวรรค์  ภาษาจีนกลางเรียกว่าเทียนลุ  ภาษากวางตุ้งเรียกว่า ทีนหลกซึ่งนำมาวางไว้ที่หน้าสุสาน
ปี่เซียะใช้สำหรับเสริมโชคลาภ  ส่วนใหญ่จะหันหน้าไปทางประตูใหญ่  หรือว่าหน้าต่าง  เดิมทีปี่เซียะมีรูทวาร  เหมือนกับสัตว์ทั่วไป  ชอบดูไอเลือดปีศาจ  ขจัดสิ่งชั่วร้าย  ต่อมาวันหนึ่งปี่เซียะได้นั่งบนตักเง็กเซียนฮ่องเต้  แล้วถ่ายรดหน้าตักเง็กเซียนฮ่องเต้  เง็กเซียนจึงใช้ฝ่ามือตบไปที่ทวาร 3 ครั้ง  หลังจากนั้นปี่เซียะจึงไม่มีรูทวารตั้งแต่นั้นมา  เง็กเซียนฮ่องเต้ได้สั่งให้ปี่เซียะมีหน้าที่ช่วยเหลือโลกมนุษย์  ช่วยดูดทรัพย์สินเงินทองทั้ง 4 ทิศ
            ในพจนานจุกรมของจีนได้กล่าวถึงปี่เซียะว่า  เป็นยอดขุนพลนักรบที่ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ  มีแต่ชนะไม่เคยพ่ายแพ้

 

บทความขออาจารย์หลิน

財神有文財神和武財神

中 國 民 眾 的 過 年 時 有 一 項 接 財 神 的 習 俗 。 一 般 在 正 月 初 二 清 晨 或 者 在 初 五 清晨 燃 放 鞭 炮 , 以 示 迎 接 財 神 。

財神有文財神和武財神之區分。當今道教宮觀中的財神神像,多為黑面濃鬚,騎黑虎,一手執銀鞭,一手持元寶,全副戎裝。該財神像當為武財神,即趙公元帥像。趙公元帥,即趙公明、趙玄壇   趙公明的神跡,統管人世間一切金銀財寶。除了趙公元帥以外但只是司土下冢中事,或是瘟神 趙公 明 專 門 向 人 間 傳 播 「 下 痢 」 即 痢 疾。

 

比干無心做 財神

比干是商朝紂王時代的丞相,紂王三大忠臣之一,因為其為人剛正不阿,同時也被中國民間認為是文財神

比干是商帝文丁的兒子,紂王的叔父,因直諫紂王喪風敗德而開罪紂王的妃子妲己因為忠諫紂王,妲己獻計聖人皆有七竅玲瓏心要紂王將之剜心觀看,詐稱需要取得比干的七竅玲瓏心作藥引,以除去朝中忠臣。《不料剜出來的心真有七竅,但比干已然死去。或說是妲己裝病遭妲己設計殺害,命比干剖心以示忠誠。在剜心之後,尚有一段姜子牙續命的故事,說姜子牙事前得知此計,遂以法術護住比干,讓比干無心卻仍得存活,並警告比干在取心之後要快快離開殷商,以免妲己又以計陷害。結果比干走是走了,妲己卻在半途設伏,化身為一個賣空心菜的老嫗,比干不知何為空心菜 剖出心臟後仍然不死;但剖心後若在路上遇見人賣無心菜,比干必須問他「人若是無心如何?」,若賣菜人回答「人無心還活」則比干可保不死;若賣菜人回答「人無心即死」比干就會立即斃命。結果比干剖心後遇見賣菜婦人,詢問後婦人回答「人無心即死」,比干登時血流如注,大叫一聲一命鳴呼。比干驚覺,遂倒地死了。後來周武王滅商成功,姜子牙追封比干為文曲星

ไฉ่ซิ่งเอี้ย ” ก็คือ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ     

ในประเทศจีนรวมทั้งคนไทยเชื้อสายจีนนับจากในคืนของวันที่สองของ ตรุษจีน ก็จะมีพิธีไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ   ในตอนกลางคืนด้วย คนไทยเชื่อสายจีนจะทำพิธีการอัญเชิญเทพเจ้าแห่งโชคลาภมาประทับที่บ้าน เพื่อขอให้ท่านประทานพรดลบันดาลความมั่งมีศรีสุข โชคลาภทรัพย์สมบูรณ์ เงินทองไหลมาเทมา เทพเจ้าแห่งโชคลาภหรือ“ไฉ่ซิ่งเอี้ย ”ซึ่งคนไทยเชื้อสายจีน เป็นเทพเจ้าชั้นสูงสุดที่ชาวจีนนิยมบูชา มีทั้งภาคบู๊ และภาคบุ๋น
หลายท่านนิยมทำการบูชาทั้ง 2 ภาค คือ ช่วยในการ ปกครองบริวาร ให้โชคลาภ และขจัดทุกข์ภัย

นับถือกันมากมีทั้งปางบุ๋นและบู้หลายปาง
สมัยโบราณการไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ต้องไปไหว้ตามศาลเจ้า แต่ในปัจจุบันนิยมนำรูปปั้นหรือภาพเหมือนขององค์ไฉ่ซิงเอี้ยมาประทับไว้ที่บ้านเพื่อกราบไหว้ขอพรให้มีโชคลาภในวัน ตรุษจีน
เจ้า กงหมิง   เทพเจ้าแห่งโชคลาภฝ่ายบู้   มีนามว่า บู้ไฉ่ซิ่งเอี้ย

ประเทศจีนในยุคสมัยโจวอู่อ๋องฮ่องเต้ เทพเจ้าแห่งโชคลาภฝ่ายบู้   มีนามว่า บู้ไฉ่ซิ่งเอี้ย ตามตำนานเล่าว่าเดิมมีชื่อว่า เจ้า กงหมิง บำเพ็ญเพียรอยู่บนเขาง้อไบ้ จนสำเร็จมรรคผลเป็นเซียน มีลักษณะ  มีหน้าตาดุร้ายไว้หนวดเครารุงรัง มีเสือดำหรือเสือโคร่งเป็นบริวารและต่อมาภายหลังได้ของวิเศษเพิ่มอีก 4 อย่าง ซึ่งสามารถเรียกเงินทองให้ไหลมาเทมาได้ มีแส้เหล็ก ไข่มุกวิเศษ และเชือกล่ามมังกร เป็นของวิเศษ ประจำตัว มีอิทธิฤทธิ์ถึงขนาด เจียงไท้กง เทพผู้สามารถ แต่งตั้งเทพเจ้ายังต้องเกรงใจ เทพเจ้าเจ้า กงหมิง

ปี่กานเทพเจ้าแห่งโชคลาภฝ่ายบุ๋นมีนามว่า บุ๋นไฉ่ซิงเอี้ย

ตามตำนานเล่าว่าเดิมมีชื่อว่า ปี่กาน มีตำแหน่งเป็นถึงอัครมหาเสนาบดี ของติ๋วอ๋องฮ่องเต้ ซึ่งเป็นฮ่องเต้องค์สุดท้ายของราชวงศ์ชางเทพเจ้าแห่งโชคลาภปี่กาน มีหน้าขาวสะอาดเกลี้ยงเกลา รับใช้แผ่นดินด้วยความภักดีแต่เพราะไปพูดล่วงเกินติ๋วอ๋องฮ่องเต้มีสนมเอกชื่อว่า ตานจีซึ่งเป็นสาวงามที่มีเสน่ห์อันดับหนึ่งและติ๋วอ๋องฮ่องเต้หลงรักเป็นอย่างยิ่ง

และอยู่มาวันหนึ่ง ตานจีสนมเอกฮ่องเต้วางแผนแกล้งปี่กานและ ได้แกล้งป่วยเป็นโรคประลาด ให้หมอหลวงทูล ติ๋วอ๋องฮ่องเต้ ว่าต้องขอหัวใจปี่กานไปปรุงยาเพื่อรักษาชีวิตตานจีสนมเอกฮ่องเต้และ ด้วยความจงรักภักดีของปี่กานจึงได้ตอบตกลงหัวใจให้ตานจีสนมเอกฮ่องเต้เรื่องนี้รู้ไปถึงเจียงไท้กง ซึ่งเป็นเทพอาวุโสจึงได้มาช่วยปี่กานโดยเสกฮู้ให้ปี่กานชงน้ำดื่ม ช่วยปี่กานมีชีวิตต่อไป

และเมื่อปี่กานควักหัวใจให้ตานจีสนมเอกฮ่องเต้ไปแล้ว  ปี่กานก็ไม่ตาย ได้ลาออกจากราชการในตำแหน่งเป็นถึงอัครมหาเสนาบดีมาเป็นสามัญชน  แต่รู้สึกหมดอาลัยกับชีวิตราชการ จึงตัดสินใจ เดินออกจากวังหลวงเดินทางร่อนเร่ไปทั่ว เมื่อไปถึงไหนก็โปรยเงินโปรยทองแจกชาวบ้าน และระหว่างทางที่เดินผ่านตลาดนั้นได้เจอหญิงชาวบ้านร้องขายผักบุ้ง(ภาษาจีนคือผักไม่มีหัวใจ)ปี่กานเพิ่งนึกขึ้นมาได้ จึงได้ถาม หญิงชาวบ้านขายผักบุ้งว่า “ผักบุ้งคือผักไม่มีหัวใจแล้วคนเราถ้าไม่มีหัวใจก็คงไม่มีชีวิต”พอพูดจบปี่กานก็ล้มลงเสียชีวิตทันทีเมื่อสิ้นอายุไขแล้วผู้คนรุ่นหลังที่ยังระลึกถึง ความจงรักภักดีของปี่กานจึงได้สร้างศาลรูปปั้นปี่กานไว้บูชา


關羽 簡稱關帝君關帝

關羽(?-219),約生於東漢桓帝年間,雲長,本字長生,河東解縣人(今山西運城市)。東漢末年劉備的重要將領,死後受民間推崇,又經歷代朝廷褒封,被人奉為關聖帝君,簡稱關帝君、關帝。佛教界一般奉其為護法神之一,稱為伽藍菩薩。民間普遍認為關羽與劉備張飛結義兄弟,關羽排行第二,俗稱其為關老爺、關二爺、關二哥等等。

關羽是眾多財神中以剛毅耿介著稱的一個。他的故事可說是家喻戶曉,非但錢財沾不上邊,甚至曾經掛印封金,有點棄財寶如敝屣的反財富傾向,以此性格作為財神似乎格格不入。雖然性格上不像是管財的財神,但關公的形象深受大眾喜愛,關帝廟香火鼎盛,仍然吸引了許多求財求事業者前來參拜。尤其他在小說和各種傳說故事裡表現出的忠肝義膽,也是一般人對於工作夥伴、合作對象的要求。因此財神關公與其說是管理錢財,他作為生意上監察誠信的守護神成份似乎重上許多。

關帝即三國時蜀國的關公,姓關名羽,字雲長,蒲州解良人(今屬陝西省解虞縣)。傳稱,關羽是青龍轉世,豎眼攢眉,超額長面。及長,身高九尺五寸,鬚長一尺八寸,面如重棗,唇若抹砂,丹鳳眼,臥蠶眉,力敵萬夫。

 

 

 

 

กวนอู  เทพเจ้าโชคลาภหรืออำนาจวาสนา

เทพเจ้ากวนอู ชื่อเดิมว่า กวนอู หยุน ฉาง

(ค.ศ. 160 - ค.ศ. 219) น้องร่วมสาบานของเล่าปี่ และเตียวหุย หน้าแดงเหมือนพุทราสุก จักษุยาว หนวดเครางาม มีง้าวคู่กาย ร่วมต่อสู้กับเล่าปี่ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาสู้ด้วยความจงรักภักดี คุณธรรม และความกล้าหาญ ถึงจะพ่ายแพ้ศึก และยอมเป็นข้ารับใช้โจโฉ แต่ใจก็ยังคงภักดีต่อเล่าปี่เพียงผู้เดียว สร้างชื่อเสียงลือไกล

พวกเราย่อมรู้จักคุ้นเคยดี และตามชุมชนชาวจีนอย่างเช่น เยาวราชยังมีศาลเจ้า "กวนอู" ที่ชาวจีนต่างอาชีพต่างชนชั้นวรรณะกราบไหว้บูชา

ชาวจีนตั้งแต่ชนชั้นกรรมาชีพถึงนักบริหารต่างบูชา กวนอู เพราะถือว่าเขาคือสัญลักษณ์แห่งคุณธรรม (เหริน) การรู้คุณและตอบแทนคุณ(อี้) ความซื่อสัตย์ (จง) และความกล้าหาญ (หย่ง)กลายเป็น "เทวดา" ที่มีอำนาจบันดาลโชคลาภหรืออำนาจวาสนา แต่คนทั่วไปกราบไหว้เพื่อขอแรงดลใจจากเทพเจ้า ที่เป็นสัญลักษณ์ของบุคคลที่มีคุณธรรม ความซื่อสัตย์ และความกล้าหาญ ฉะนั้นการบูชาเทพเจ้ากวนอูคือการรำลึกถึงวีรกรรมความดีที่ได้สร้างไว้

ในตำนานวีรบุรุษใน "สามก๊ก" แม้เป็นตัวละครที่ถูกจินตนาการขึ้น แต่ก็ได้รับการยกย่องสรรเสริญโดยปัจเจกบุคคลจีน (ซึ่งส่วนใหญ่ถูกจัดอยู่เป็นจำพวกที่ต้องต่อสู้กับความไม่ถูกต้องหรือเงื่อนไขไม่เป็นธรรมในสังคม) นั้น เพราะพวกเขาเหล่านี้ทำกิจกรรมร่วมกันหรือรวมพลังเพื่อต่อสู้
มีตำนานหนึ่งกล่าวไว้ว่า ท่านเกิดที่เมืองไกเนี้ย มณฑลชานสี (ซัวไซ) กวนอูนั้นชื่อเดิมว่าเซียงเซง ได้สังหารชายชราผู้ชั่วช้าที่บังคับให้ลูกสาวตนไปเป็นนางบำเรอแก่ขุนนางโฉด ทำให้ท่านต้องหนีจากการตามล่าจากทหารทางการอย่างหัวซุกหัวซุน เมื่อหนีมาถึงลำธารแห่งหนึ่งแถวด่านทงกวน ด้วยความหิวกระหายอย่างที่สุด จึงได้ลงไปล้างหน้า ดื่มน้ำที่ลำธาร เมื่อได้มองดูใบหน้าในน้ำ ก็ประหลาดใจที่เห็นใบหน้าเปลี่ยนแปลงแปลกไปจากเดิม คือมีสีแดงเข้มแปลกจนไม่มีใครจำได้ ครั้งผ่านด่านเจ้าพนักงานถามชื่อเสียงก็บอกว่าชื่อกวน (เอาชื่อด่านมาเป็นชื่อของตนเอง) เจ้าพนักงานจึงปล่อยให้ไป ด้วยเหตุนี้กวนอูจึงได้รอดพ้นจากการถูกตามล่าไปได้โดยปริยาย และจึงได้ใช้ชื่อกวนเป็นมงคลนามด้วยเหตุนี้อีกด้วย
ชื่อ "กวนอู"(กวนกง) โด่งดังจากนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ "สามก๊ก" ที่พวกเราย่อมรู้จักคุ้นเคยดี และตามชุมชนชาวจีนอย่างเช่น เยาวราชยังมีศาลเจ้า "กวนอู" ที่ชาวจีนต่างอาชีพต่างชนชั้นวรรณะกราบไหว้บูชา  กวนอู  เทพเจ้าโชคลาภหรืออำนาจวาสนา

 

 

 

 

觀世音菩薩

觀世音菩薩,又作觀音菩薩觀自在菩薩是從梵語अवलोकितेश्वर(Avalokiteśvara)翻譯而來

名號由來

從字面解釋就是「觀察世間聲音」的菩薩,出自《妙法蓮華經》其中一品《觀世音菩薩普門品》:「若有無量百千萬億眾生,受諸苦惱,聞是觀世音菩薩,一心稱名,觀世音菩薩即時觀其音聲,皆得解脫。」又說:「若有眾生,多於淫慾,常念恭敬觀世音菩薩,便得離欲。若多瞋恚,常念恭敬觀世音菩薩,便得離瞋。若多愚癡,常念恭敬觀世音菩薩,便得離癡。」另一重意思則出自

首楞嚴經》。觀世音菩薩是從聽聲音著手修行,而證得耳根圓通,修成正果

形象與傳說

在佛教各種菩薩像中,觀世音菩薩像的種類最多,大概與觀世音有各種化身的說法有關。

《普門品》當中有提到,觀世音菩薩有三十二種化身,因應眾生的需要而現身說法。祂可以化身為辟支佛聲聞梵王帝釋自在天大自在天天大將軍毘沙門、小王、長者居士、宰官、婆羅門比丘比丘尼優婆塞優婆夷婦女、童男、童女、夜叉乾闥婆阿修羅迦樓羅緊那羅摩睺羅迦非人執金剛神等等。

道教則認為祂善於救助婦女兒童,助人孕產,又稱之為慈航真人慈航大士等,另外,民間常尊稱其為「送子觀音」,甚有人將其視之為送子娘娘。觀世音菩薩,道教和佛教中的香火都十分旺盛。

 

千手千眼觀音

根據《觀世音菩薩本行經》(後改稱《香山寶卷》,作者為宋代的普明禪師),認為祂是妙莊王的三女兒,名妙善。至出嫁年齡,不嫁,出家為尼。妙莊王因此將其趕出王宮。後來妙莊王身患頑疾,危在旦夕,求救於一老僧,老僧診斷後認為只有以親生女兒的手眼配藥才能醫治。妙莊王只得求救於自己的大女兒和二女兒,然二女堅決不允。無耐老僧只得告知香山有位仙長,道法高深,興許能夠救愈。妙莊王來到香山,找到香山仙長,卻大吃一驚,原來仙長為自己三女兒,但此時已修成至道。女兒知道父親來意後,二話投說,當即割斷手臂挖掉雙眼奉給妙莊王。妙莊王心裡十分難過,遂祈求於神明,使女兒再生手眼,結果神靈有眼,女兒果然長出了一千隻眼和一千雙手。妙莊王十分感動,令人在香山修建寺廟,專門祀奉妙善,並稱之為「觀音」。

在西藏

根據《度母本源記》所載,觀世音菩薩見眾生難以救度,不禁左眼流下了一滴眼淚,化為綠度母,右眼流下了一滴眼淚,則化為白度母。綠度母與白度母均被視為觀世音菩薩的化身。

節日

觀世音菩薩每年有三大節日,此三大節日為誕辰、得道、成道(出家)。

農曆二月十九日:觀世音菩薩誕辰紀念日

農曆六月十九日:觀世音菩薩得道紀念日。

農曆九月十九日:觀世音菩薩成道紀念日或觀世音菩薩出家紀念日。

เจ้าแม่กวนอิม

เจ้าแม่กวนอิม   พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์   ผู้เพ่งเสียงแห่งโลก
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ หรือ  พระโพธิสัตว์กวนอิม, กวนซีอิมผ่อสัก,
กวนอิมผ่อสัก, อาเนี้ย, เจ้าแม่กวนอิม พระองค์มีสมญาว่า มหาเมตตา มหากรุณาทรงตั้งปณิธานที่จะ ช่วยเหลือสัตว์โลกยังไม่เข้าสู่พุทธภูมิ จนกว่าจะช่วยสรรพสัตว์ซึ่งตกอยู่ในกองทุกข์ให้หมดไปเสียก่อน  ทรงสามารถนิมิตนิรมาณกาย ไปโปรดได้ ทุกหนทุกแห่ง ผู้ใดคร่ำครวญปริเทวนาการเพราะความทุกข์ พระองค์ย่อม ทรงได้ยินสมดังพระนามว่า “กวนอิม” ซึ่งแปลว่า พระผู้ได้ยินเสียงร้องคร่ำครวญของสัตว์โลก, ผู้สดับฟังเสียงโลก, ผู้เพ่งเสียงแห่งโลก

ประวัติโดยย่อ
คัมภีร์กรุณาปุณฑริกสูตร กล่าวว่า พระอวโลกิเตศวร
เป็นพระ ธรรมกายโพธิ์สัตว์ (ธรรมกาย คือ กายธรรม หรือธาตุรู้อันบริสุทธิ์
ที่กว้างใหญ่ไพศาล ไม่มีขอบเขต และแทรกอยู่ทั่วทั้งจักรวาล) ตามคัมภีร์สมาธิสูตร อ้างว่าพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ แท้จริง เป็นพระสัมมาธรรมวิทยาพุทธ แบ่งภาคมาเพื่อโปรดสัตว์ คือทรงบรรลุ โพธิณาณแล้วแต่อดีตอนันตกาล มีพระนามว่า “กวงซีอิมยู่หล่าย” ประทับอยู่ภูเขาโปตละ เกาะกลางทะเลทางทิศใต้ของสาธารณรัฐอินเดีย แต่พระองค์จะปรากฏกายโปรดสัตว์ในทุกหนทุกแห่ง

ปัจจุบันเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับเพศของพระอวโลกิเตศวรว่า เป็น ชายหรือหญิง จากประวัติศาสตร์จีนบันทึกว่า ก่อนราชวงศ์ถัง-ซ้องนิยม  สร้างรูปลักษณะตามศิลปของเดิมที่รับมาจากอินเดีย คือ เป็นรูปบุรุษ แต่เมื่อกาลเวลายิ่งผ่านไปประชาชนประสบภัยสงครามการกดขี่ ล้วนเกิด
จากบุรุษเพศ ดังนั้นจึงมีการยกย่องสตรีเพศ ซึ่งมีความอ่อนโยนและ เมตตามากกว่าในยุคราชวงศ์หงวน พุทธศาสนิกชนจีนยกย่อง พระนางเมี่ยวซ่าน   พระธิดาของกษัตริย์เมี่ยวจวง ให้เป็นพระโพธิสัตว์กวนอิม ด้วยคุณธรรม ความดี และทรงมีความเมตตา  ถือศีล กินเจ ปฎิบัติธรรมะ  


วันที่โพธิสัตว์สมภพแห่งพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์

ประสูติ วันที่ 19 เดือน 2 (นับแบบจีน)
สละโลกออกบวช วันที่ 19 เดือน 6 (นับแบบจีน)
ละทิ้งสังขาร วันที่ 19 เดือน 9 (นับแบบจีน)

 

รวมสิริพระชนมมายุ 34 ปี 6 เดือน หรือ 7 เดือน (นับแบบจีน)
สถานที่ละสังขาร “เขาโปตละโลกา” ทะเลใต้ หรือที่ “เขาโพวถ่อซัว”
กลางทะเลของเซียงไฮ้ สาธาณรัฐประชาชนจีน ในปัจจุบัน               

        เจ้าแม่กวนอิม พระโพธิสัตว์ ของพระพุทธศาสนา ฝ่ายมหายาน เป็นองค์เดียวกันกับพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ในภาษาสันสกฤต ซึ่งมีต้นกำเนิดจากพระสูตรมหายานในอินเดีย และได้ผสมผสานกับความเชื่อพื้นถิ่นดั้งเดิมของจีน คือตำนานเรื่องพระธิดาเมี่ยวซ่าน ก่อให้เกิดเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิมในภาคสตรีขึ้น เพื่อแสดงออกถึงความอ่อนโยน และแสดงถึงความเมตตากรุณาให้เด่นชัดยิ่งขึ้นดังเช่นความรักของมารดาที่มีต่อบุตร ซึ่งเป็นการผสมผสานกลมกลืนทางความเชื่อที่ปราศจากข้อขัดแย้ง เนื่องจากในสัทธรรมปุณฑรีกสูตรได้อธิบายว่า พระอวโลกิเตศวรนั้นสามารถแบ่งภาคเพื่อโปรดสรรพสัตว์ได้มากมายทั้งปางบุรุษและสตรี และเป็นธรรมดาของพระโพธิสัตว์มหายานที่เมื่อเข้าไปสู่ดินแดนอื่นทั้งทิเบต จีน หรือญี่ปุ่น ย่อมผสมผสานกลมกลืนได้กับเทพท้องถิ่นนั้น ๆ อย่างในกรณีพระอวโลกิเตศวรนี้ Sir Charles Eliot ได้ตั้งข้อสังเกตว่า "คงเนื่องมาจากความสับสนทางความคิดของชาวจีนในยุคนั้น ซึ่งบูชาเทพเจ้าต่างๆ ของตนอยู่แล้ว และเมี่ยวซ่านก็เป็นเทพวีรชนดั้งเดิมอยู่ก่อน พออารยธรรมพระโพธิสัตว์จากอินเดียแผ่เข้าไปถึง ได้เกิดการผสานทางวัฒนธรรมเปลี่ยนชื่อเสียงคงไว้เพียงแต่คุณลักษณะต่าง ๆ พอให้แยกออกว่าเป็นพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์"  

  คาถาสวดพระนามพระโพธิสัตต์กวนอิม

นำโม กวงซีอิม ผู่สัก ( 3 หรือ 5 หรือ 9 จบ)

พระแม่กวนอิมพระมหาโพธิสัตว์

นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโค่ว กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิมผู่สัก ( กราบที่ 1 )

นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโค่ว กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิมผู่สัก ( กราบที่ 2)

นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโค่ว กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิมผู่สัก ( กราบที่ 3)

นำโมฮู๊ก นำโมหวบ นำโมเจ็ง นำโมกิวโค่ว กิวหลั่ง กวงสี่อิมผู่สัก ทั่งจี้โต โอม เกียล้อฮวดโต เกียล้อฮวดโต เกียออฮวดโต ล้อเกียฮวดโต ล้อเกียฮวดโต ซ่าผ่อออ เทียงล้อซิ้ง ตี่ล้อซิ้ง นั้งลี่หลั่ง หลั่งหลีซิง เจ็กเฉียก ใจเอียง ห่วยอุ่ยติ๊ง นำโมม่อออ ปวกเยี่ยปอล้อบิ๊ก ( กราบ 1 จบ )

 

อรรถาธิบาย มหากรุณาธารณีสูตร
พระธรรมกาย 33 ปาง

ปางที่ 1 พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ถือประคำ
(1)
นำมอฮอลาตันนอ ตอลาเหย่ เย นอบน้อมนมัสการพระไตรรัตน์ทั้งสาม
ปางที่ 2 พระจินดามณีจักรอวโลกิเตศวร ถือธรรมจักร
(2)
นำมอออหลีเย นอบน้อมนมัสการองค์พระอริยะ
ปางที่ 3 พระอวโลกิเตศวร ปางอุ้มบาตร
(3)
ผ่อลูกิดตี ซอปอลาเย ขอน้อมคารวะแด่องค์พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์

 ผู้เพ่ง เสียงแห่งสรรพสัตว์ผู้ยาก

ปางที่ 4 พระอมงบาศโพธิสัตว์
(4)
ผู่ทีสัตตอผ่อเย ขอน้อมคารวะต่อผู้ให้การตรัสรู้แก่ทุกชีวิต
ปางที่ 5 พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ทรงพัสตราภรณ์สีขาว
(5)
หม่อฮอสัตตอผ่อเย เมื่อน้อมคารวะผู้กล้าหาญก็มีโอกาสที่จะหลุดพ้น
ปางที่ 6 พระอัศวโฆษ
(6)
หม่อฮอเกียลู ขอน้อมคารวะต่อผู้มีมหากรุณาจิต

ปางที่ 7 ราชาแห่งแทพทั้งปวง
(7)
งัน (โอม) นอบน้อม เป็นมารดาแห่งธารณีทั้งหลาย
ปางที่ 8 ท้าวจตุโลกบาล โปรดพวกมาร ด้วยพระบารมี 6
(8)
สัตพันลาฮัวอี  ใจกายสะอาดเหล่ามารมาทำร้ายไม่ได้
ปางที่ 9 ท้าวจตุโลกบาลเทวราช เสด็จพร้อมด้วยเทพเจ้าแห่งภูติปีศาจในบังคับบัญชา
(9)
ซูตันนอตันแชพระอริยะแสดงอภินิหารปกปักษ์รักษา ตักเตือนมนุษย์ ให้ตั้งใจมุ่งไปทางธรรม

ปางที่ 10 พระนาคารชุนวัชราธรโพธิสัตว์
(10)
นำมอสิตกิตหลี ตออีหม่งออหลีเย  ผู้ปฏิบัติย่อมได้รับความคุ้มครองและจำต้องปฏิบัติธรรม
โดยมานะพากเพียร มีจิตใจมั่นคง ไม่เร่งรีบ
ปางที่ 11 สัมโภคกาย แห่งพระไวโรจนะพุทธเจ้า
(11)
ผ่อลูกิตตีซือฮุลา เลงถ่อพอ
พระโพธิสัตว์ทรงสั่งสอนให้ผู้ปฏิบัติธรรมมุ่งไปข้างหน้า สำรวมจิตให้เป็นสมาธิ
ปางที่ 12 พระไวโรจนพุทธเจ้า อันเป็นธรรมกาย
(12)
นำมอนอลากินซี พระโพธิสัตว์ย้ำเตือนชาวโลกให้มีไตรสรณคมน์ ปฏิบัติตน อยู่ในมนุษยธรรม

ปางที่ 13 พระรูปเมษศีรษะเทพเจ้า
(13)
ซีหลีหม่อฮอ พันตาซาแม พระโพธิสัตว์ ทรงกล่าวพระคาถาเตือนจิตให้มุนษย์ผ่อน ใจในทางโลก โน้มน้าวจิตมาในทางมรรคผล
ปางที่ 14 อมฤตโพธิสัตว์ หัตถ์ถืออมฤตกุนฑี (หม้อน้ำมนต์) และกิ่งทับทิม
(14)
สัตผ่อออทอเตาซีพง
พระโพธิสัตว์ ทรงประทานพระคาถาบทนี้เพื่อมุนษย์ทุกคน

สามารถรู้ได้เห็นได้ และบรรลุสู่พระพุทธภูมิโดยเสมอกัน
ปางที่ 15 ยักษ์เหินหาว (ตรวจตราทั่วทิศทั้งสี่ทิศ)
(15)
ออซีเย็น พระโพธิสัตว์ \

จำแลงเป็นพญายักษ์แสดงอภินิหารตักเตือน   มนุษย์ให้ละบาป และบำเพ็ญบุญ

ปางที่ 16 เทพเจ้าภคติ หัตถ์ถือโตมรเป็นศาสตราวุธ
(16)
สัตผ่อสัตตอ นอมอผ่อสัตตอ นอมอผ่อเค

นักปราชญ์หรือ ผู้โง่เขลาเบาปัญญา คนหรือสัตว์ สามารถ หลุดพ้นได้

ถ้าปฏิบัติตามพุทธธรรมด้วยความเคารพ
ปางที่ 17 ปกุนตาลี หัตถ์ถือจักรและบ่วงบาศก์    มีนัยน์ตา 3 ดวง
(17)
มอฮัวเตอเตา
ผู้ปฏิบัติธรรมต้องถือสัจธรรมเป็นใหญ่ ไม่ข้องแวะ ไม่ติดในรูป ไม่ยึดในจิต ดับกิเลสให้จิตสงบ
ปางที่ 18 พระอรหันต์
(18)
ตันจิตทอ
ความศรัทธาจริงอันต่อเนื่องยังผลให้จิตต้องตรงกับ   พระ ธรรม อย่าให้มีความคิดทางโลกเกิดขึ้น

ปางที่ 19 พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ประทับนั่งพนมมือ
(19)
งันออผ่อลูซี  ผู้ปฏิบัติธรรมต้องมีจิตใจที่เด็ดเดี่ยวไม่หวั่นไหว
ปางที่ 20 พระมหาพรหมเทพราช
(20)
ลูเกียตี   พระโพธิสัตว์ตักเตือนสรรพสัตว์ให้รักษาความมี  กุศลจิตให้สะอาดบริสุทธิ์
ปางที่ 21 เทพเจ้า ช่วยเหลือสรรพสัตว์
(21)
เกียหล่อตี
คาถาที่พระโพธิสัตว์มีเมตตาจิต กรุณาจิต ชักชวนให้มนุษย์ปฏิบัติธรรมเมื่อจิตสงบ
ก็เปลี่ยนร้ายเป็นดี บาปเป็นบุญได้

ปางที่ 22 เทพเจ้ามเหศวรแห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์(นำทัพเทพยดามาโปรดเหล่าสัตว์)
(22) อีซีหลี่   พระโพธิสัตว์ทรงมีความเมตตากรุณา สรรพสัตว์ใดที่รับความไม่เป็นสุข จะทรงตามไปช่วยตามเสียงที่ร้องขอ
ปางที่ 23 พระโพธิสัตว์ใช้ความเมตตากรุณาอันบริสุทธิ์ เป็นพระคาถาที่มีความเป็นอนัตตา
(23)
หม่อฮอผู่ทีสัตตอ
พระโพธิสัตว์มุ่งชี้แนวทาง สรรพสิ่งเป็นสูญ
ปางที่ 24 คนธาลัยโพธิสัตว์ (นำทัพภูติผี 5 ทิศ มาโปรดสัตว์)
(24)
สัตพอสัตพอ พุทธธรรมมีความเสมอภาค

ปางที่ 25 พระปัณฑรวาสินีโพธิสัตว์  หัตถ์ขวาถือแก้วมณี หัตถ์ซ้ายอุ้มชูเด็ก
(25)
มอลามอลา สัตว์โลกจะได้รับพรให้มีอายุยืนยาว
ปางที่ 26 พระอมิตาภเจ้า
(26)
มอซีมอซี ลีถ่อเย็น
ผู้มีจิตว่างสะอาดทั้งกายและจิตเมื่อลงปฏิบัติแล้วย่อม สามารถบรรลุมรรคผลได้   ไม่มีวันเสื่อมถอย
ปางที่ 27 เป็นอากาศกายโพธิสัตว์ (นำทัพเหล่าเทพโปรดสัตว์)
(27)
กีลู กีลู กิตมง
ผู้ปฏิบัติธรรมมีจิตอันเป็นกุศล เทพเจ้าจะอำนวยพร
ปางที่ 28 พระอุครโพธิสัตว์ (คุมทหารของมยุรราชปราบมาร)

(28) ตูลู ตูลู ฮัวแซเหย่ตี
พระโพธิสัตว์มุ่งสั่งสอนผู้ปฏิบัติให้เห็นแจ้งในแนวทาง ที่ เข้าถึงพระธรรมอันบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
ปางที่ 29 แม่ทัพมหาพละ หัตถ์ถือคทาคุ้มครองสรรพสัตว์ผู้เพียรปฏิบัติธรรม
(29)
หม่อฮอฮัวเซเยตี
พระคาถานี้มุ่งกำจัดความหลงผิด เพื่อปล่อยวาง เมื่อจิต บริสุทธิ์เหล่ามารก็ไม่อาจรบกวน
ปางที่ 30 มหาบุรุษบำเพ็ญทุกขกิริยา (กระทำกิจที่กระทำได้ยาก)
(30)
ทอลาทอลา
กิเลสอันเปรียบดุจฝุ่นละออง, ธุลี ถ้าจิตมีเศษเสี้ยวแห่ง กิเลสเกาะอยู่ก็ยากที่จะเห็นธรรม

ปางที่ 31 พระโพธิสัตว์ ประทับพญาราชสีห์
(31)
ตีลีนี   สรรพสัตว์โลกทั้งหลายผู้บำเพ็ญเพียรล้วนสามารถได้รับ
การโปรดได้ โดยเฉพาะหญิงสาวให้ปฏิบัติธรรมโดยเร็ว
ปางที่ 32 พระคำรามโพธิสัตว์ หัตถ์ถือคทาทองเป็นศาสตราวุธ
(32)
สิดฮูลาเย   เมื่อปฏิบัติธรรมเข้าถึงองค์มรรค จิตย่อมสะอาดสามารถ สำเร็จเป็นพุทธะอันพิสุทธิ์เปล่งปลั่งด้วยรัศมี

 

 

如来佛祖

如来佛祖,是西方极乐世界
释迦牟尼尊者。在西牛贺洲天竺灵山鹫峰顶上修得丈六金身。此人神通广大,法力无边。成佛後的釋迦牟尼,即被稱為佛陀,意思為覺悟的人。在佛教經典中,又稱釋迦牟尼為世尊及如來

如来"这个名词是从梵语(tathāgata)译出来的。"如"字就是"真如"(tathāta),即一切法(事物)的真实状况,它又包含"如实"(Yathābhūtam)的意义。佛经对"如来"的解释是:"乘真如之道而来",又说"如实而来"。"如来"是一个通用名词,它是"佛陀"的异名。佛字是"佛陀"的简称,是Buddha的音译(如果用今天的汉语音译,应当是"布达"),佛陀的意义是"觉者"或"智者"。"佛陀"是印度早就有了的字,但佛教给它加了三种涵义:正觉(对一切法的性质相状,无增无减地、如实地觉了);等觉或遍觉(不仅自觉,即自己觉悟,而且能平等普遍地觉他,即使别人觉悟);圆觉或无上觉(自觉觉他的智慧和功行都已达到最高的、最圆满的境地)。

如来:乘如实之道而来成正觉。“如”在佛经中称真如,就是绝对真理,如来,是说佛是掌握着绝对真理来到世上说法以普渡众生的圣者。如来佛祖神通广大,法力无边是西方极乐世界的最高统治者、最高法力神通的代表、慈悲济世修真正善的佛。

在称呼上称释迦牟尼佛或称释迦牟尼如来,都是一样的。但称释迦牟尼为如来佛就错了,因为如来和佛同是一切佛的通称。

如來梵語多陀阿伽陀(tathāgata)譯作如來,是的尊稱之一。

民間常以如來如來佛,專指佛教創始者釋迦牟尼佛

如指真如,含兩層意思:

憑藉真如之道,通過努力,不斷累積善因,最後終於成佛,故名如來,也就是真身如來

通過介紹真如之道,使眾生獲益,故名如來。也就是應身如來

也有解釋作「如諸佛而來,故名如來」。

 

 

พระยูลาย   คือ  องค์พระอมิตภพุทธเจ้า  หรือในนามของ

พระโคตมพุทธเจ้า (Gautama Buddha) หรือมักนิยมเรียกเพียง พระพุทธเจ้า เป็นศาสดาของพระพุทธศาสนา

องค์พระอมิตภพุทธเจ้า ณ แดนสุขาวดีพุทธเกษตร
พระมหาสถามปราปย์มหาโพธิสัตว์ ทรงเป็นผู้ช่วยในการบรรเทา ทุกข์แก่สรรพสัตว์ เป็นพระโพธิสัตว์แห่งดวงปัญญาที่สามารถรู้ถึงความ ต้องการทางสติปัญญาของทุกๆ คน ทรงมีอิทธิฤิทธิ์ปฎิหาริย์มาก
  ตามคัมภีร์ฝ่ายพุทธ ถือกันว่าพระองค์ดำรงพระชนม์ชีพอยู่ระหว่าง 80 ปีก่อนพุทธศักราช จนถึงเริ่มพุทธศักราชซึ่งเป็นวันปรินิพพาน ตรงกับ 543 ปีก่อนคริสต์กาลตามตำราไทยอ้างอิงปฏิทินสุริยคติไทยและปฏิทินจันทรคติไทย และ 483 ปีก่อนคริสตกาลตามปฏิทินสากล ราชสกุลวงศ์ของพระพุทธเจ้า ชื่อว่าศากยวงศ์ โคตมโคตร ปกครองกรุงกบิลพัสดุ์ (ปัจจุบันคือประเทศเนปาล) ทรงเป็นพระโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ และ พระนางสิริมหามายา ทรงมีพระนามว่าสิทธัตถราชกุมาร

พุทธประวัติ

เจ้าชายสิทธัตถะประสูติ

พระนางสิริมหามายา พระมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะแห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ขณะทรงพระครรภ์แก่ ได้ขออนุญาตจากพระสวามี เพื่อแปรพระราชฐานไปประทับ ณ กรุงเทวทหะ ซึ่งเป็นพระนครเดิมของพระนาง เพื่อประสูติในตระกูลของ พระนางตามประเพณีนิยมในสมัยนั้น

วันเพ็ญเดือน 6 ก่อนพุทธศักราช 80 ปี ขณะเสด็จแวะพักผ่อนพระอิริยาบถใต้ต้นสาละสวนลุมพินีวัน พระนางก็ได้ประสูติพระโอรส ณ ใต้ต้นสาละนั้น ในวันศุกร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 (เดือนวิสาขะ) ปีจอ ครั้นพระกุมารประสูติได้ 5 วันก็ได้รับการถวายพระนามว่า “สิทธัตถะ” และหลังจากนั้น 2 วัน พระราชมารดาก็ทิวงคต

เจ้าชายมีลักษณะมหาบุรุษ

พระเจ้าสุทโธทนะราชบิดา ได้เชิญพราหมณ์ 8 คน มาทำนายลักษณ์พระกุมาร ซึ่งพราหมณ์ทั้งหมดมีความเห็นตรงกันว่า พระกุมารมีลักษณะของมหาบุรุษ 32 ประการ 7 คนจึงทำนายเป็น 2 ทางว่า หากพระกุมารสีบราชสมบัติต่อไปจักเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ผู้ครองโลก หากออกบวชจักเป็นศาสดาเอก ยกเว้นโกณฑัญญะพราหมณ์ ซึ่งเป็นพราหมณ์หนุ่มเพียงคนเดียวเท่านั้นที่กล้าทำนายว่า พระกุมารเมื่อทรงเติบใหญ่จะเสด็จออกบวชและจะได้เป็นศาสดาเอกของโลก โกณฑัญญะพราหมณ์จึงได้เตรียมตัวเพื่อออกบวชติดตามเจ้าชายสิทธัตถะ และต่อมาได้เป็นหัวหน้าปัญจัคคีย์ทั้ง 5 และเมื่อได้รับการบวชจากองค์พระสัพพัญญูแล้วก็บรรลุเป็นพระอรหันต์

[แก้] เจ้าชายสืบราชสมบัติ

เจ้าชายสิทธัตถราชกุมาร ทรงเจริญวัยด้วยความสุขยิ่ง เพราะกำเนิดในราชตระกูลภายใต้เศวตฉัตร และได้ทรงศึกษาในสำนักอาจารย์วิศวามิศ ซึ่งเป็นสำนักที่มีชื่อเสียงที่สุด เจ้าชายได้ทรงศึกษาอย่างรวดเร็ว และจบหลักสูตรสิ้นทุกประการ คือจบศิลปศาสตร์ทั้ง 18 สาขาวิชาที่เปิดสอน

พระเจ้าสุทโธทนะ ทรงปริวิตกต่อคำทำนายของพราหมณ์หนุ่ม ที่ว่าเจ้าชายจะออกบวชแน่นอน ทรงจัดการราชาภิเษกให้เจ้าชายขึ้นครองราชย์ พร้อมสร้างปราสาท 3 ฤดูให้อยู่ประทับ เมื่อพระชมน์ได้ 16 พรรษาได้เข้าสู่พิธีอภิเษกสมรสกับพระนางยโสธราพิมพา ผู้เป็นธิดาของพระเจ้าสุปปพุทธะ กษัตริย์ผู้ครองราชสมบัติกรุงเทวทหนคร เจ้าชายสิทธัตถะได้เสวยสุขกับพระนางตลอดมา จนพระชนมายุได้ 29 พรรษา ก็มีพระราชโอรสองค์หนึ่งพระนามว่าราหุล ซึ่งแปลว่า บ่วง

เจ้าชายเสด็จออกบวช  เทวทูตทั้ง 4

เจ้าชายสิทธัตถะ ทรงเสพสุขอยู่บนปราสาท 3 ฤดู จนวันหนึ่งทรงปรารถนาจะผ่อนคลายความจำเจ จึงชวนสารถีทรงรถม้าประพาสอุทยาน ครั้งนั้นทรงพบเทวทูตทั้ง 4 อันได้แก่ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช พระองค์จึงบังเกิดความสังเวชในพระราชหฤทัย ใคร่เสด็จออกบรรพชาเป็นสมณะ ในวันที่เจ้าชายราหุลเกิดนั้น เป็นวันที่เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกบรรพชา ด้วยทรงเบื่อในเพศฆราวาสอันเต็มไปด้วยกิเลส จึงทรงเห็นว่าเพศบรรพชาเท่านั้นที่ประเสริฐและเป็นเพศที่สามารถจะหลุดพ้นจากความทุกข์ยากทั้งปวงได้ กระทั่งคืนที่เจ้าชายตัดสินพระทัยจะออกบวช ได้เสด็จไปเยี่ยมพระโอรสและมเหสี เมื่อพระองค์เห็นพระนางพิมพาบรรทมหลับสนิทพระกรกอดโอรสอยู่ทรงดำริจะอุ้มพระโอรส ขึ้นชมเชยเป็นครั้งสุดท้าย ก็เกรงว่าพระนางพิมพาจะตื่นบรรทม เป็นอุปสรรคขัดขวางการเสด็จออกบรรพชา จึงตัดพระทัยระงับความเสน่หาในพระโอรสเสด็จออกจากห้อง เสด็จลงจากปราสาทพบกับนายฉันนะ สารถี ซึ่งเตรียมม้าพระที่นั่ง(ม้านามว่ากัณฑกะ)ไว้แล้ว เสด็จออกจากพระนครในราตรีกาล ทรงเสด็จออกพ้นพระราชวัง เข้าเขตแดน แคว้นโกศลและแคว้นวัชชี ครั้นเวลาใกล้รุ่ง เสด็จถึงฝั่งแม่น้ำอโนมานที พระองค์ทรงม้าข้ามฝั่งแม่น้ำ แล้วเสด็จลงไป ประทับนั่งบนกองทราย ทรงตัดพระเมาลี ด้วยพระขรรค์ เปลี่ยนชุดทรงกษัตริย์เป็นผ้ากาสาวพัตร์ แล้วทรงตั้งจิตอธิษฐานครองเพศบรรพชิต ณ ริมฝั่งแม่น้ำ อโนมา ทรงส่งนายฉันนะนำเครื่องทรงกษัตริย์กลับนคร แล้วเสด็จลำพังโดยพระองค์เดียว มุ่งพระพักตร์ ไปยังแคว้นมคธ

เมื่อพระองค์ถือเพศบรรพชิตแล้ว ก็ทรงศึกษาในลัทธิคณาจารย์ต่างๆ ซึ่งสมัยนั้นนิยมกัน ส่วนเจ้าชายสิทธํตถะเมื่อครองเพศบรรพชิตแล้ว ทรงถือวัตรปฏิบัติของสมณะ คือปลงผมนุ่งผ้า ย้อมน้ำฝาด(สีเหลืองแก่นขนุน) เลี้ยงชีพด้วย อาหารบิณฑบาต ที่ผู้ต้องการบุญถวายให้ ทรงมีมีนามเรียกขานว่า พระสมณโคดม (คำว่าโคดม มาจากคำว่าโคตมะ ซึ่งเป็นชื่อโคตรของราช วงศ์ศากยะ) ในเบื้องต้น พระสมณโคดม ได้ไปฝากตนเป็นศิษย์ ในสำนักอาฬารดาบส ได้ฝึกจิตบำเพ็ญธรรมจนบรรลุความรู้ขั้นสูงสุดของอาจารย์ คือบรรลุฌานขั้นที่ 7

[แก้] บำเพ็ญเพียรเพื่อการบรรลุธรรม

เมื่อหมดความรู้ของอาจารย์อาฬารดาบสจึงอำลาไป เป็นศิษย์ในสำนักอุทกดาบส ซึ่งมีความรู้สูงกว่าอาฬารดาบสหนึ่งขั้น คือเป็นผู้บรรลุฌานขั้นที่ 8 ซึ่งพระสมณโคดม ใช้เวลาศึกษาไม่นานก็สิ้นภูมิรู้ของอาจารย์ ในที่สุด จึงอำลาไปค้นหาวิมุตติธรรม ตามแนวทางของพระองค์ ด้วยทรงประจักษ์ว่า นี่ไม่ใช่หนทางแห่งการตรัสรู้  พระองค์จึงได้ละทิ้งสำนักอาจารย์เหล่านั้นเสีย พระองค์ได้มุ่งหน้าสู่ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคมแคว้นมคธ โดยทรงเริ่มการบำเพ็ญเพียรขั้นอุกฤต ที่เรียกว่าทุกกรกิริยา ซึ่งนักบวชสมัยนั้นนิยมปฏิบัติกัน อาทิการกลั้นลมหายใจเข้าออก จนเหงื่อโทรมกายหูอื้อตาลาย การนั่งตากแดดจนผิวเกรียมไหม้ ครั้นฤดูหนาว ก็ลงไปแช่น้ำจนตัวแข็งพระองค์ได้ทดลองปฏิบัติตามความเชื่อดั้งเดิมทุกวิถีทาง ก็ยังไม่สามารถบรรลุแนวทางค้นพบสัจจธรรมได้  ขณะนั้นมีฤๅษี 5 รูป ชื่อว่า โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสชิ ตามมาปฏิบัติตนเป็น ศิษย์ ด้วยคาดหวังว่า เมื่อพระสมณโคดม ค้นพบ วิโมกขธรรม จะได้สอนพวกตนให้บรรลุด้วย   พระสมณโคดม เริ่มบำเพ็ญทุกกรกิริยาขั้นสุดท้าย คือเริ่มลดอาหารที่ละน้อย ๆ จนถึงขั้นอด อาหาร จนร่างกายซูบซีดผอมแห้ง เหลือแต่หนังและเอ็นหุ้มกระดูก ทรงอาตมาบำเพ็ญเพียรถึงขั้นอุกฤตขนาดนี้ นับเป็นเวลาภึง 6 พรรษา ก็ยังไม่สามารถบรรลุวิมุตติธรรม

ความนี้ทราบถึงท้าวสักกเทวราช ผู้เป็นจอมเทพแห่งดาวดึงส์สวรรค์ จึงทรงเสด็จมาเฝ้า และดีดพิณสามสายให้ทรงสดับ วาระแรกทรงดีดพิณสายที่ 1 ซึ่งขึ้นสายไว้ตึง พอลงมือดีดสายพิณก็ขาดผึงลง วาระที่ 2 ทรงดีดพิณสายที่สอง ซึ่งขึ้นสายไว้หย่อน ปรากฏเป็นเสียงที่ยืดยาดขาดความไพเราะ วาระที่ 3 ทรงดีดพิณสายสุดท้ายที่ขึ้นสายไว้พอดี เป็นบทเพลงที่ไพเราะกังวาน พร้อมกับถวายบังคมลากลับไป   พระสมณโคดม ทรงสดับแล้วก็ทรงทราบถึงเหตุแห่งการมาของท้าวสักกเทวราช จึงได้แนวพระดำริว่า การบำเพ็ญทุกขกิริยานั้น เป็นการทรมาณตนให้ลำบากเปล่า เป็นข้อปฏิบัติที่ตึงเกินไปไม่ใช่หนทางแห่งการตรัสรู้ การบำเพ็ญเพียรทางสมาธิจิตนั้น ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป น่าจะเป็นทางแห่งการตรัสรู้ได้ จึงเริ่มเสวยพระกระยาหารดังเดิมเพื่อให้ร่างกายคลายเวทนา มีสมาธิที่จะบำเพ็ญเพียรต่อไป

การตรัสรู้ยิ่ง   พระพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพาน

ทรงประทับนั่ง ขัดสมาธิ ผินพระพักตรสู่เบื้องบูรพาทิศ ตั้งจิตแน่แน่วว่าตราบใดที่ยังไม่บรรลุสัมมาสัมโพธิญาน จักไม่ลุกขึ้นจากสมาธิบัลลังก์ พญาวัสสวดีมาร เข้าทำการขัดขวางการตรัสรู้ ของพระมหาบุรุษ แต่พ่ายแพ้ไป ด้วยอำนาจบารมี ครั้นพญามารพ่ายแพ้กลับไปแล้ว พระมหาบุรุษทรงบำเพ็ญเพียรต่อไป ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น ทรงเริ่มบำเพ็ญสมาธิให้เกิดในพระทัย เรียกว่าการเข้าฌาน เพื่อเป็นบาทของวิปัสสนาญาณ จนเวลาผ่านไปจนถึงยามต้น ทรงบรรลุปุพเพนิวาสานุติญาณ คือ ทรงระลึกชาติในอดีต ทั้งของตนเองและผู้อื่นได้ ยามสอง ทรงบรรลุ จุตูปปาตญาณ คือ การรู้แจ้งการเกิดและดับของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ยามสาม ทรงบรรลุ อาสวักขญาณ คือ รู้วิธีกำจัดกิเลส(มาร) ด้วย อริยสัจ 4 (ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ) ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์จึงพบกับความสุขสว่างอย่างแท้จริง ซึ่งเรียกกันว่าทรงตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง ได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นศาสดาเอกในโลก ตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 ณ อุรุเวลาเสนานิคม แขวงเมืองพาราณสี ขณะมีพระชนม์ได้ 35 พรรษา

พระพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพาน

พระองค์ก็ได้เที่ยวสั่งสอนพุทธศาสนิกชนทั้งหลายตลอดระยะเวลา 45 พรรษา เพื่อให้ศาสนิกชนได้พบเห็นทางที่นำไปสู่ความสุขอย่างแท้จริง ได้ประทับจำพรรษา ณ เวฬุคามใกล้เมืองเวสาลี แคว้นวัชชี พระองค์เสวยสุกรมัททวะ (เห็ดพื้นเมือง) ที่นายจุนทะตั้งใจทำถวาย ก็เกิดอาพาธลง แต่ทรงอดกลั้นมุ่งเสด็จไปยังเมืองกุสินารา ประทับ ณ ป่าสาละ เพื่อเสด็จดับขันธุ์ปรินิพพาน

เมื่อถึงยามสุดท้ายของคืนนั้น พระพุทธองค์ ก็ทรงประทานปัจฉิมโอวาทว่า

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันว่าสังขารทั้งหลายย่อมมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงอันเป็นประโยชน์ของตน และประโยชน์ของผู้อื่น ให้บริบูรณ์ ด้วยความไม่ประมาทเถิด”

จนกระทั่งถึงดับขันธุ์ปรินิพาน ระหว่างใต้ต้นรังคู่ ณ แขวงเมืองกุสินารา ในราตรีเพ็ญเดือน 6 นั้น

หลักธรรม คำสอน

พระพุทธเจ้าทรงเทศนา สั่งสอนพุทธบริษัทเรียกว่า พระธรรมวินัย พระธรรม คือคำสอนในสิ่งที่เป็นจริงของชีวิต เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตไปสู่จุดหมายสูงสุด คือ นิพพาน

พระธรรมนั้นแบ่งเป็น 2 ลักษณะคือ คำสอนที่เกี่ยวเนื่องกับ ชีวิตประจำวันของ ผู้คนทั่วไป เรียกว่าพระสูตร และคำสอนที่เป็น หัวข้อธรรมล้วนๆ เช่น ขันธ์ 5 ปัจจยา การ 12 เป็นต้น ส่วนวินัยสำหรับพระ ภิกษุและภิกษุณี เรียกว่าพระอภิธรรม ได้แก่กฎระเบียบข้อปฏิบัติ หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานได้ 7 วัน พุทธบริษัทได้ ร่วมกันรวบรวม พระสูตร พระอภิธรรมและพระวินัยจัดเข้าเป็น หมวดหมู่ได้ 84,000 หมวด รวมเรียกว่า พระไตรปิฎก

 

สถานที่ติดต่อ 

อาจารย์   ภัทรพล แซ่ลิ้ม  (ซินแส หลิน)

โทร. 081-4994-267 

083-277-6668

02-882-8842  กด 0 เบอร์บ้าน กด1pct.
02-882-8855 กด 0 เบอร์บ้าน กด1pct.




อาจารย์ ภัทรพล แซ่ลิ้ม (ซินแส)

ศาลเจ้าที่ ตี่จู่เอี้ย



dot
www.henghengheng.com
dot
dot
Web Link
dot
bullettiantekpro.com
bullettiantek.net
bullettiantek.com
bullethorawej.com
dot
Llink
dot
bullethotmail.com
bulletyahoo.com
bulletgmail.com
bulletgoogle.co.th
bulletเดลินิวส์
bulletไทยรัฐ
bulletข่าวสด
bulletบ้านเมือง
bulletมติชน
bulletคมชัดลึก
bulletกรุงเทพธุรกิจ
bulletผู้จัดการ
dot
Newsletter

dot
bulletแลก ลิ้ง ได้ที่นี่



อ.รุ่งนภา พยากรณ์
(แม้นเมือง
)

พิมพ์ปารีณา
รับพยากรณ์
จัดฮวงจุ้ยและรับสอน

ติดต่อได้ที่
โทร.
085-3253709

http://
pimandfriends.
blogspot.com/



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
Best View 1024 x 768 pixels.............
พระอาจารย์ธงชัย ธมฺมกาโม (เทียนเต็กซินแซ).....e-mail address tiantek@hotmail.com และ tiantek@henghengheng.com
วัดแดงประชาราษฎร์ ถ. บางกรวยไทรน้อย ต. บางสีทอง อ. บางกรวย จ.นนทบุรี รหัส 11130
โทร 0-2447-3593, 0-1936-6908

javascript hit counter

View My Stats


รวมสุดยอกของเฮง รับพยากรณ์ดวงชะตาและสอนเลข 7 ตัว 9 ฐานประยุกต์ ต้องการมีเวปไซด์ของตัวเอง คลิกที่นนี่ Enter to M T h
A ! 100HOT Sites and Vote for this Site!!! www.horawej.com เวปนิตยสาร โหราเวสม์  เพื่อการศึกษาค้นคว้า โหราศาสตร์ และศาสตร์ต่าง ๆ รวมทั้งโปรแกรมผูกดวงต่าง ๆ มากมาย ทางเรายินดี เป็นศูนย์กลางของการเผยแพร่ ความรู้ทางศาสตร์ แห่งโหรศาสตร์ และอื่น ๆ ที่ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ผู้ใดหากท่านใดต้องการรับการพยากรณ์เชิญในห้องกระทู้ มีอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิคอย ตอนรับท่าน อยู่หลายท่าน เรียนเชิญครับ ด้วยความเคารพอย่างสูง webmaster horawej@horawej.com web 10 luckastro.com เป็นเว็ปเพื่อการศึกษาโหราศาสตร์ 10 ลัคนา และโหราศาสตร์สาขาอื่น ๆ ทุกสาขาวิชา เว็ป 10 luckastro.com เป็นศูนย์รวมของนักพยากรณ์ทุกระดับทุกสาขาวิชา เป็นจุดนัดพบและสื่อสารในระหว่างนักศึกษาโหราศาสตร์ด้วยกัน และในระดับครูบาอาจารย์ เว็ป 10 luckastro.com ยินดีในการให้บริการตอบปัญหาทั้งปัญหาชิวิตและปัญหาทางโหราศาสตร์ www.tiantek.com เวปเพื่อการศึกษาค้นคว้า โหราศาสตร์จีน และ เลือกหัวข้อที่ต้องการดู (ดูได้ทุกเรื่องโดยไม่จำกัด) บอกวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟากตามหลักสากล และบอกเหตุการณ์ที่ผ่านมา...เช่นแต่งงาน...มีบุตร ทำงานหรือทำธุรกิจ.เมื่อปีพ.ศ....และข้อสุดท้ายช่วยแจ้งด้วยว่าขณะนี้กำลังทำอะไรอยู่ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของดวง ข้อมูลยิ่งมากการทำนายยิ่งแม่น ถ้าภายใน 24 ชั่วโมง(หนึ่งวัน)ยังไม่ได้รับคำทำนาย อาตมาอนุญาติให้โทรเข้ามาถามดวงสดสดได้ 
เวปไซด์ของอาตมา เป็นเวป เพื่อการศึกษาและเผยแผ่ธรรมะ และถ้าโยมช่วยบอกต่อให้ผู้อื่นได้ทราบมากเท่าใดยิ่งได้บุญมากเท่านั้น 
www.maleeseacon.com เวปเพื่อการสะสมพระเครื่อง บูชาเครื่องของขลัง ณ ห้างสรรพสินค้า ซีคอนสแควร์ ชั้น 3 โซนโลตัส ถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ กทม 10250 Wireless Home Automation 
ท่านไม่ต้องเป็นวิศวกรหรือมีความรู้ทางด้านอิเลคโทรนิคส์ และไม่ต้องเดินสายไฟฟ้าเพิ่มเติม ท่านก็สามารถออกแบบและติดตั้งระบบบ้านอัจฉริยะได้อย่างสะดวกง่ายดายด้วยตัวท่านเอง  
ชุมนุมผู้เป็นปฏิปักษ์กับหัว ขโมย มหาหมอดู PostJung.com เวบเพลง Online เพลง Update Intrend, หาเพื่อน MSN, Diary, Webboad โพสท์รูปซะใจ, PhotoAlbum ฯลฯ...Click เลย ชุมชนคนช่างฝัน สุดยอดแห่งสาระ และ ความบันเทิง ศูนย์รวม CODE ทุกอย่าง โรจน์ จินตมาศ   จุ๊กกรู! ดอท คอม ..มุมสงบ ผ่อนคลาย ครื้นเครง ป็นกันเอง..ดูดวงฟรี หวย ฟังเพลง เกมส์ หาเพื่อน หากิ๊ก ข่าว ดูดวง  Give information about Thai orchids ตลาดนัดรถรถบ้านที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ Image Hosted by ImageShack.us ซื้อขายออนไลน์ 24 ชั่วโมง