โจรอยู่ในวัด

 ภาพถ่ายทั้งหมดนี้ถ่ายจากภายในบริเวณวัด

 

 ตัวเงินตัวทอง 
เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามลำดับที่ 19 
ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 
ห้ามเลี้ยง ซื้อ ขาย หรือครอบครอง
ต้องมีการขออนุญาตเพาะเลี้ยงจากกรมอุทยานฯ ก่อน 
หากฝ่าฝืนมีความผิดมีโทษจำคุก 4 ปี ปรับ 40,000 บาท 
หรือทั้งจำทั้งปรับ (มิใช่หรือ)

วัสดุต่างๆตลอดจนเพลิงต่างๆก็ไม่ใช่ของวัด

 

 
วัด"แดง"เป็นวัดที่น่าสงสาร
สมัยก่อนชื่อของวัดคือวัด "วัดแตงแดง"
พระประธานในโบสถ์ถูกคนร้ายตัดเศียรไปทิ้งที่ทางรถไฟ
เพราะเอาไปไม่ได้
จึงต้องเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดแดงเปรมประชาราษฏร์"
ต่อมาสมภารถูกฆ่าตาย จึงต้องเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดแดงประชาราษฏร์"
จนถึงปัจจุบันนี้

ของที่อยู่หน้ากุฏิพระก็ไม่ใช่ของของวัด ที่สำคัญก็ไม่ใช่ของของพระ

ของที่เห็นก็ไม่ใช่ของวัดและไม่ใช่ของของพระ เป็นของเจ้าพ่อทั้งหมด

เคยแจ้งไปทางเทศบาลครั้งหนึ่ง ต้องใช้รถบรรทุก 6 ล้อขนออกไปเผาที่ลานกลางแจ้ง ต้องขนออกไปประมาณ 6 เที่ยว ทำให้รถดับเพลิงเข้าใจผิดเพราะชาวบ้านแจ้งไปว่าไฟไหม้วัดแดง

 

สงสัยว่าต่อไปคงจะต้องจ้างช่าง
ปั้นรูปเจ้าพ่อไว้หน้าวัด ใช้งบประมาณไม่มาก

แต่ปัจจุบันเผาไม่ได้แล้ว (ตำรวจบอกเผาขยะผิดกฏหมาย)

แม้แต่ศาลพระภูมิเกือบสิบศาลก็ไม่ใช่ของของวัด

ที่ไม่กล้าตั้งชื่อเรื่องเพราะ

ชาวบ้านบอกว่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองผลักภาระให้กับทางวัด
และที่สำคัญต้องรู้ก่อนว่าฝ่ายไหนได้จัดตั้งรัฐบาล

 ทางโรงพยาบาลบอกว่าไม่ได้บ้า ทำอะไรไม่ได้
ประชาสงเคราะห์ บอกว่าเจ้าตัวบอกว่าหากินเองได้
ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่มีหลักฐาน เขาไม่ได้ทำอะไรผิด
เพราะแค่ว่ากล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ ถูกถอดไปบางตัวเท่านั้น 

พระที่อยู่บนกุฏิหลังนี้บอกว่าเวลากลางวันเจ้าพ่อจะเปิดวิทยุเสียงดังทั้งวัด เพราะเวลากลางคืนเป็นเวลาที่เจ้าพ่อจะต้องออกไปหากิน

ทางวัดเคยตั้งกฏเกณฑ์ว่าใครให้อาหารโจรแสดงว่าเป็นพวกเดียวกับโจร พระที่อยู่ในวัดบอกว่าถ้าไม่ให้ก็อยู่ไม่ได้ เวลากลางคืนจะมีก้อนหินเขวี้ยงเข้ามาที่กุฏิ (แสดงว่าต้องเสียค่าคุ้มครองให้เจ้าพ่อ)

 

 พอบอกเรื่องนี้ให้พรรคพวกฟัง
พรรคพวกกลับอึ้ง...ทึ่ง

แจ้งความไปแล้ว หลายหน่วยงาน เจ้าหน้าที่มาแล้ว มาดูเฉยๆ..............และพูดความจริงอย่างหนึ่ง คือถ้าไล่เจ้าพ่อออกไปจากวัด  จะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ยิ่งกว่านี้........จบ

เพราะเขาคือเจ้าพ่อวัดแดงตัวจริง  จบมิจฉาชีพบัณฑิต วิทยานิพนธ์ชื่อ "................ "

 

 

เจ้าพ่อมีรถหลายคัน ขนเข้าขนออกสบายมากไม่มีใครว่า เจ้าพ่อบอกว่าของในวัดเป็นของเขาทั้งหมด

 

 

 

 

มีเจ้าหน้าที่มาเยี่ยมเหมือนกัน ท่านถามว่าแล้วพระที่วัดทำไมอยู่เฉย ทำไมไม่สู้ ก็เลยตอบไปว่า ที่วัดนี้ไม่รับพระนักเลง

ประตูรั้วถูกตัด กล้องวงจรปิดถูกถอด จากมิจฉาชีพบัณฑิต

 

 

พวกเจ้าพ่อทั้งหลาย จับเหี้ยในวัดมากินแกล้มเหล้าในวัด

ตัวเงินตัวทอง เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามลำดับที่ 19 ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ห้ามเลี้ยง ซื้อ ขาย หรือครอบครอง ต้องมีการขออนุญาตเพาะเลี้ยงจากกรมอุทยานฯ ก่อน หากฝ่าฝืนมีความผิดมีโทษจำคุก 4 ปี ปรับ 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

 เจ้าหน้าที่ของวัด
ต้องไปเก็บซากเหี้ยที่เจ้าพ่อทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า

 

 

 

เรื่องทั้งหมดนี้อย่าเพิ่งเชื่อเพราะว่า ไม่มีใครเล่าความชั่ว ของตัวเอง ให้คนอื่นฟัง ดังนั้น  เราจึงไม่ควร ฟังความข้างเดียว ......